
18.03 @ 09:45
By The Market Research Team
ทะลุเพดาน 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ได้สำเร็จ ราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งแรง!
ทะลุเพดาน 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ได้สำเร็จ ราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งแรง!
ตลาดยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากความผันผวนของนโยบายภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เพิ่งประกาศ ซึ่งทำให้ตลาดยิ่งกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อและการชะงักงัน (Stagflation) จนนำไปสู่การเร่งซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกระลอก
ต้นสัปดาห์นี้ ตลาดทองคำยังได้แรงส่งเพิ่มเติมจากปฏิบัติการทางทหารระลอกใหม่ของสหรัฐฯ-สหราชอาณาจักรในตะวันออกกลาง หลังสหรัฐฯ โจมตีทางอากาศต่อกลุ่มฮูตี (Houthi) ในเยเมนเมื่อสุดสัปดาห์ รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ประกาศว่าจะเดินหน้าปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง จนกว่ากลุ่มดังกล่าวจะหยุดโจมตีเส้นทางขนส่งทางทะเล
การปะทะดังกล่าวยิ่งทำให้ภูมิภาคทะเลแดงตึงเครียด และเมื่อบวกกับประเด็นการเจรจาหยุดยิงระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยังคลุมเครือ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์จึงยังเป็นแรงหนุนให้ “กระแสหลบความเสี่ยง” (Risk-off) ไม่ลดลง
ดังนั้น ใน “สัปดาห์ซูเปอร์ของธนาคารกลาง” ที่ผู้คนต่างจับตาทิศทางนโยบายการเงินอย่างใกล้ชิด สปอตไลท์จึงส่องไปที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เป็นหลัก โดยหวังว่าประธานเจอโรม พาวเวล (Jerome Powell) จะช่วยมอบ “ความชัดเจน” ให้แก่ตลาดที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
มีแนวโน้มสูงที่จะ “คงอัตราดอกเบี้ย” ไว้ตามเดิม
“ความชัดเจน” ที่ตลาดเฝ้ารอ เริ่มต้นจากแนวโน้มการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของเฟดในสัปดาห์นี้
ตามข้อมูลจากเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group พบว่า ตลาดคาดการณ์อย่างท่วมท้นว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยกองทุนของเฟด (Federal Funds Rate) ไว้ที่กรอบ 4.25%-4.5% ซึ่งจะถือเป็นการ “คงอัตราดอกเบี้ย” ติดต่อกันเป็นครั้งที่สองในการประชุม FOMC
นอกจากนี้ ในคำปราศรัยช่วงหลัง ๆ ของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด (รวมถึงพาวเวล) ต่างย้ำว่าพวกเขาจะยัง “จับตาสถานการณ์” เพราะยังมีนโยบายอีกหลายด้านที่ยังไม่ชัดเจน เช่น การดำเนินนโยบายภาษีของทรัมป์ (Trump) ซึ่งยังไม่รู้แน่ชัดว่าจะกระตุ้นเงินเฟ้อให้สูงขึ้น หรือฉุดรั้งเศรษฐกิจ — หรืออาจเกิดขึ้นทั้งสองทาง
ส่วนกระแสคาดการณ์ “ลดดอกเบี้ยภายในปีนี้” นั้น ตลาดส่วนใหญ่มองว่าน่าจะเกิดขึ้น “2-3 ครั้ง” (มีแนวโน้มมากที่สุดราวเดือนมิถุนายนเป็นครั้งแรก) ซึ่งก็สอดคล้องกับ “Dot Plot” (จุดแสดงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย) ที่จะอัปเดตอีกครั้งในสัปดาห์นี้ โดยในการประชุมเดือนธันวาคมปีก่อน เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ประเมินว่าจะมีการลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้
ความน่าจะเป็นของการดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟด (ที่มา: CMEGroup)
สูตร “ถ้า… เช่นนั้น…” ของพาวเวล
อีกด้านหนึ่ง แม้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะร่วงลงหนักเพราะเผชิญปัจจัยลบหลายประการ แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ก็ไม่ได้แสดงท่าที “ให้ความสำคัญกับตลาดหุ้น” เทียบเท่ากับช่วงสมัยแรกที่ดำรงตำแหน่ง ทำให้บางฝ่ายมองว่าหน้าที่ “ส่งสัญญาณใส่ใจตลาดหุ้น” อาจตกมาอยู่ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ แทน
สำนักวิจัย Mizuho Securities มองว่า ถึงแม้เฟดจะไม่ตั้งเป้า “เล็งตรง” ไปที่ตลาดหุ้น แต่ก็จะไม่ปล่อยให้ตลาดร่วงหนักในระยะสั้นไปโดยไม่แทรกแซง
ดังนั้น ถ้า แผนภาพจุด “Dot Plot” ใหม่ในสัปดาห์นี้เพียงย้ำการลดดอกเบี้ย 2 ครั้งภายในปีไว้ตามแผนเดิม พาวเวลก็อาจต้องส่งสัญญาณเพิ่มเติมว่า
- หาก ตลาดแรงงานยังคงซบเซาอย่างต่อเนื่อง
- เช่นนั้น เฟดพร้อมใช้นโยบายลดดอกเบี้ยเพื่อพยุงเศรษฐกิจ
ท่าทีดังกล่าวจะสั่นคลอน “ความแข็งกร้าว” ที่พาวเวลเคยมีต่อเสียงวิจารณ์จากทรัมป์ เพราะนักลงทุนจะตีความเป็น “ส่งสัญญาณผ่อนคลาย (Dovish)” และการผ่อนคลายความตึงเครียดของตลาดหุ้นก็น่าจะดึงดูดเงินทุนที่เป็น “แรงหนุน” ราคาทองคำในการเก็งกำไรหลบความเสี่ยง ออกมาบางส่วน
แนวโน้ม “ตัวเลขราคา/เงินเฟ้อ” ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากเฟดตัดสินใจลดดอกเบี้ย ก็หมายความว่า อัตราผลตอบแทน (Yield) ของสินทรัพย์ไร้ความเสี่ยงจะลดลง — ซึ่ง “ส่งผลบวก” ต่อทองคำที่ไม่มีดอกเบี้ยในตัวเอง แต่ก็ต้องชั่งน้ำหนักเทียบกับ “ความต้องการหลบความเสี่ยง” ที่อาจลดน้อยลง ว่าปัจจัยใดจะส่งผลต่อราคาทองคำมากกว่ากัน
ยิ่งไปกว่านั้น สองรายงานเงินเฟ้อ (CPI และ PPI) ที่ออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่งสัญญาณสนับสนุนการ “ลดดอกเบี้ยช่วงปลายปี” ของเฟดเพิ่มขึ้น โดย CPI เดือนกุมภาพันธ์ เทียบรายปีโต 2.8% (ต่ำสุดนับตั้งแต่พฤศจิกายนปีก่อน) ขณะที่ CPI พื้นฐาน (Core) เพิ่มขึ้น 3.1% (ต่ำสุดตั้งแต่เมษายน 2021) ส่วน PPI ก็เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ตลาดคาดเช่นกัน
การเปลี่ยนแปลงของ CPI สหรัฐฯ (เทียบรายปีแบบรายเดือน) ที่มา: MacroMicro
ดูเหมือนว่าแรงกดดันเงินเฟ้อจะ “คลายลง” ได้ง่ายกว่าการคาดเดาเงื่อนไขทางภาษีและความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ตลาดได้ “ซึมซับ” (Pricing in) การคาดการณ์ว่าเฟดจะผ่อนคลายนโยบายในช่วงครึ่งปีแรกไปเรียบร้อยแล้ว
แต่สิ่งที่มั่นใจได้คือ หากพาวเวลยัง “แข็งกร้าว” ในการส่งสัญญาณ และย้ำว่าหากเงินเฟ้อยังไม่ลดลง เฟดก็จะคงดอกเบี้ยในระดับจำกัด (Restrictive) ไว้ยาวนานขึ้น แนวโน้มราคาทองคำก็อาจเจอแรงกดดันขาลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
วิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง: ทองคำสปอต (XAUUSD)
หลังจาก “ทะลวง” แนวต้าน 3000 ได้สำเร็จ ราคาทองคำก็เริ่มชะลอตัวลงบ้างที่บริเวณระดับสำคัญนี้
ที่มาของ XAUUSD รายวัน: แพลตฟอร์ม FXTM MT4
หากมองในแง่แนวโน้ม ระยะกลาง (ภายในปีนี้) และระยะสั้น (นับตั้งแต่ราคาทองคำทำจุดต่ำสุดใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว) ยังอยู่ใน “กรอบขาขึ้น” (Ascending Channel) ที่ชันพอสมควร และยังไม่เห็นสัญญาณการอ่อนแรงที่ชัดเจน
แต่หากขยายมุมมองบนกราฟ จะเห็นว่าราคาทองคำกำลังเข้าใกล้ “กรอบบน” ของแนวโน้มขาขึ้นกว้าง ๆ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีก่อน จึงอาจมีความเป็นไปได้ว่าเหนือระดับ 3000 ขึ้นไป ราคาทองคำอาจเคลื่อนไหวได้ยากลำบากขึ้น
ในขณะเดียวกัน เครื่องมือ MACD บริเวณเหนือเส้นศูนย์ (Zero Line) เพิ่งเกิดสัญญาณ “Golden Cross” อีกครั้ง แต่เมื่อดูจุดสูงสุด (High) ของกราฟราคาล่าสุด ยังห่างจากจุดสูงสุดของรอบก่อนหน้า ซึ่งอาจเปิดพื้นที่ให้เกิด “Bearish Divergence” (ราคาทำจุดสูงใหม่ แต่ MACD ทำจุดสูงต่ำลง) ส่วน RSI ก็เริ่มเห็นว่าจุดสูง (High) แต่ละรอบยกตัวต่ำลงเรื่อย ๆ จึงอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าโมเมนตัมขาขึ้นเริ่มอ่อนแรง
แนวต้านที่ควรจับตา:
3000 (อ่อน) — ระดับจิตวิทยาและเป้าหมายระยะสั้นสำคัญ
3031 (แข็งแกร่ง) — ระดับ 1.618 เท่าของการย้อนกลับ (Retracement) นับตั้งแต่ขาลงเดือนพฤศจิกายนปีก่อนและช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์
3100 (อ่อน) — เลขกลม ๆ (แนวต้านเชิงจิตวิทยา)
แนวรับที่ควรเฝ้าระวัง:
2955 (แข็งแกร่ง) — จุดสูง (Peak) ในเดือนกุมภาพันธ์ และเป็นจุดสูงรอบล่าสุด
2880 (แข็งแกร่ง) — ระดับต่ำสุดราวกลางเดือนมีนาคม ใกล้เส้นล่างของช่องขาขึ้นปีนี้ หากหลุดลงมาเทรนด์ขาขึ้นอาจสั่นคลอนได้
2832 (อ่อน) — ระดับต่ำสุดของเดือนกุมภาพันธ์ (“Low ก่อนหน้า”) หากหลุดซ้ำจะเท่ากับเปิดพื้นที่การปรับฐานอย่างเต็มรูปแบบ
ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน