หุ้นดิ่งแรงขณะที่ราคาน้ำมันร่วง เพิ่มความเสี่ยงที่โลกจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดพยายามคาดเดาถึงกรอบในการปรับลดกำลังการผลิตของ OPEC + ประเทศสมาชิกเพื่อรับมือกับอุปสงค์น้ำมันโลกที่ลดลงอย่างมากเนื่องจากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส เรากำลังเผชิญกับสงครามราคาน้ำมันหลังจากที่รัสเซียปฏิเสธจะร่วมลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม จากนั้น ซาอุดีอาระเบียตัดสินใจที่จะหันกลับไปใช้กลยุทธ์ในปี 2014 เพื่อปกป้องส่วนแบ่งตลาดของตนเอง โดยประกาศว่าจะลดราคาน้ำมันลงมากอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน และคาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตให้สูงกว่า 12 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อคาดว่าอุปสงค์ทั่วโลกจะลดลงมากกว่า 3 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้

การที่อุปทานพุ่งสูงขึ้นผสานกับอุปสงค์ที่ลดลงหนักทำให้ราคาน้ำมันดิ่งลงมากกว่า 30% เพียงข้ามคืน ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดในเวลาเพียงหนึ่งวันนับตั้งแต่ปี 1991 ที่ราคาน้ำมันร่วงลง 35% หลังพันธมิตรในสงครามอ่าวส่งเครื่องบินหลายร้อยลำไปถล่มอิรัก

การดิ่งลงของราคาน้ำมันส่งผลต่อสินทรัพย์ทุกประเภทในวันนี้ สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์กำลังถูกเทขายอย่างหนักตั้งแต่โคโรน่าไวรัสระบาด โดยดอลลาร์ออสเตรเลียลงไปทดสอบจุดต่ำสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2009 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งทำจุดต่ำสุดเป็นประวัติการที่ 0.6318 ก่อนดีดขึ้นมา 200 pips ในช่วงหลังของตลาดเอเชีย ส่วนโครนนอร์เวย์ปรับตัวลดลงไปที่ $9.67 ซึ่งต่ำสุดในสามทศวรรษครึ่ง ขณะที่เงินเยนซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวได้ดีที่สุด โดยแข็งค่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับ USD นับจากปี 2016

หุ้นสหรัฐฯ กำลังปิดฉากตลาดกระทิงที่ยาวนานที่สุด ฟิวเจอร์ส S&P 500 ร่วงลง 5% ในเวลาทำการของตลาดเอเชีย หากดัชนีร่วงลงอีก 5% ก็จะต้องอาศัยการปรับตัวลดลงอีก 3.6% เท่านั้นจึงจะทำให้ตลาดเข้าสู่ภาวะตลาดหมี หมายความว่าในสัปดาห์นี้ ตลาดอาจซบเซาจนก้าวเข้าสู่ภาวะตลาดหมีอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะมีการปรับตัวลดลง 20% จากจุดสูงสุดในรอบที่ผ่านมา

ตลอดสามสัปดาห์ก่อน นักลงทุนได้จัดสรรเงินลงทุนในพอร์ตของตัวเองอีกครั้งเพื่อรับมือกับผลกระทบจากโคโรน่าไวรัส ขณะนี้ พวกเขายังต้องคำนึงถึงการร่วงลงแรงของราคาน้ำมัน ซึ่งอาจเร่งให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ในสถานการณ์เช่นนี้ 'การอัดฉีดเงินของ Fed' ไม่น่าจะส่งผลเหมือนที่ผ่านมา ตลาดได้คำนวณว่ามีโอกาส 54% ที่ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 0 ในเดือนเมษายน แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะรับมือกับการระบาดของไวรัสและการดิ่งลงของราคาน้ำมัน

ปริมาณสินเชื่อกำลังมากขึ้นเรื่อยๆ และเราคาดว่าจะได้เห็นสภาพคล่องที่ลดลงยิ่งขึ้น หากราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานานยิ่งขึ้น บริษัทในอุตสาหกรรมน้ำมันจะต้องปิดกิจการและจะเกิดการเลิกจ้างทั่วทั้งอุตสาหกรรมน้ำมัน

ซึ่งเป็นความเสี่ยงของจริง เมื่อความตกใจในตลาด Wall Street กระจายไปทั่วและภาวะเศรษฐกิจถดถอยเกิดขึ้นแล้ว คุณก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบได้ เราคาดว่าการเทขายเพราะความตกใจจะยังคงมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของนักลงทุนต่อไป เว้นแต่จะเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นมา