การวิเคราะห์ตลาดรายวัน

นักลงทุนในเอเชียตื่นขึ้นมาในวันจันทร์ท่ามกลางทะเลหุ้นและค่าเงินที่แดงเถือก ดัชนีหุ้นญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ร่วงลงเกิน 2% ขณะที่หุ้นฮ่องกงร่วงลงหนักกว่า 3% จากความตึงเครียดทางการเมืองที่ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พันธบัตรรัฐบาล ทองคำ และค่าเงินเยนคือที่ลี้ภัยของนักลงทุนเมื่อดูเหมือนว่าข้อพิพาททางการค้าระหว่างสองประเทศยักษ์ใหญ่ของโลกจะไม่จบสิ้น

ตลาดไม่ได้คาดหวังว่าการเจรจาทางการค้าล่าสุดระหว่างจีน-สหรัฐฯ จะทำให้เกิดการแก้ปัญหาครั้งสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็มีไม่กี่คนที่คาดหวังว่าประธานาธิบดี Trump จะประกาศขึ้นภาษีนำเข้า 10% สำหรับสินค้าจากจีนมูลค่า $300,000 ล้านดอลลาร์ กระทรวงพาณิชย์ของจีนให้คำมั่นว่าจะใช้มาตรการตอบโต้ที่จำเป็น แต่ยังไม่มีการประกาศรายละเอียดเพิ่มเติม

จีนยังคงมีเครื่องมือไม่กี่อย่างที่จะตอบโต้ภาษีนำเข้าล่าสุดของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นการหยุดนำเข้าสินค้าเกษตรของอเมริกา การห้ามนำเข้าแร่โลหะหายาก การหยุดซื้อหนี้ของสหรัฐฯ หรือกระทั่งการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ อีก อย่างไรก็ตาม วิธีการเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าเพิ่มเติมสำหรับสินค้าของจีนที่มีมูลค่ามากกว่า $500,000 ล้านดอลลาร์ 

ค่าเงินเป็นตัวเลือกใหม่หรือไม่

ค่าเงินหยวนจีนทะลุเหนือ Rmb7 ต่อ USD ในเช้านี้หลังธนาคารประชาชนจีน (PBoC) กำหนดจุดกึ่งกลางที่ 6.9225 ซึ่งเป็นครั้งแรกนับจากพฤษภาคม 2008 ที่ค่าเงินจีนเทรดเหนือระดับทางจิตวิทยาที่สำคัญที่ 7 PBoC ทุ่มเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ตลอดสองสามปีที่ผ่านมาเพื่อป้องกันไม่ให้ค่าเงินทะลุระดับที่สำคัญดังกล่าว แต่ขณะนี้ไม่ได้ทำเช่นนั้นแล้ว อันที่จริง เครื่องมือด้านค่าเงินอาจมีประสิทธิภาพสูงเนื่องจากจะชดเชยผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ได้มาก หากค่าเงินจีนร่วงลงอีก 8% จากระดับปัจจุบัน ภาษีนำเข้า 10% ที่ผู้นำเข้าชาวสหรัฐฯ จ่ายจะได้รับการชดเชยโดยการอ่อนค่าของเงินหยวนจีน

แม้การลดค่าเงินยังมีผลในเชิงลบ เช่น ความเสี่ยงที่เงินทุนจะไหลออก แต่ตราบที่การลดลงเป็นไปตามลำดับ มีการจำกัดความผันผวนและควบคุมกิจกรรมการเก็งกำไร ความเสี่ยงก็จะเหลือน้อยมาก

ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อใดที่สงครามการค้าครั้งนี้จะจบลง แต่มีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้หลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในปี 2020 เราไม่คิดว่าสงครามการค้าครั้งนี้จะส่งผลดีต่อประธานาธิบดี Trump ในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่า swing state (รัฐที่ยังไม่สามารถเดาได้ว่าจะเลือกผู้สมัครคนใดเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ) หลายรัฐได้รับผลเสียจากข้อพิพาททางการค้าในขณะนี้

จนกว่าจะถึงเวลานั้น คาดกันว่าจะมีความผันผวนในตลาดเงินโลกและสินทรัพย์ปลอดภัย (safe haven) จะได้ประโยชน์เป็นหลัก ในบรรดาสินทรัพย์ปลอดภัยทั้งหมด ทองคำเป็นตัวเลือกที่เราชื่นชอบหากสงครามการค้าครั้งนี้กลายเป็นความวุ่นวายที่ไม่สามารถควบคุมได้

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน

ดอลลาร์ไถลลงต่อในเช้าวันจันทร์เนื่องจากความกระวนกระวายใจในสงครามการค้าส่งผลมากขึ้น และคุกคามไปถึงสงครามสกุลเงิน ประธานาธิบดีทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์การกระชับนโยบายการเงินของเฟดอย่างเปิดเผยในวันศุกร์โดยกล่าวว่า “สหรัฐอเมริกาไม่ควรถูกลงโทษเพียงเพราะพวกเขาทำได้ดี” - ในความคิดของทรัมป์ การกระชับในตอนนี้เป็นการทำลายความพยายามของเขาในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

อดีตผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์คนนี้ไม่ปลื้มกับการที่อัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับขึ้น เช่นเดียวกับผู้อยู่อาศัยในสหรัฐอีกมากมาย เพราะสุดท้ายแล้ว อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นหมายถึงค่าใช้จ่ายของการกู้ยืมเงินที่เพิ่มขึ้น การชำระดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และแรงจูงใจในการใช้จ่ายที่น้อยลง อย่างไรก็ตาม เฟดไม่สามารถทำการตัดสินใจโดยใช้ความทะเยอทะยานทางการเมืองระยะสั้นได้ เพราะการปล่อยให้อัตราเงินเฟ้ออยู่เหนือการควบคุมจะทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้นในระยะยาว

ความเห็นของทรัมป์ในวันศุกร์ยังคุกคามถึงความเป็นอิสระของธนาคารกลางอีกด้วยซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อความเชื่อมั่นของตลาด ในความเห็นส่วนตัวของผม เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดจะดำเนินการตามขั้นตอนการกระชับต่อไป แต่ก็มีโอกาสที่การปรับขึ้นจะน้อยลงเรื่อยๆ หากประธานาธิบดียังคงกดดันธนาคารกลางอย่างต่อเนื่อง

ในการแทรกแซงอื่นๆ ทรัมป์กล่าวหาจีนกับสหภาพยุโรปถึงการควบคุมสกุลเงินของพวกเขาเพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขันเหนือสหรัฐ แต่ที่จริงแล้ว เหตุผลจริงๆ ที่ดอลลาร์ปรับขึ้นจนถึงตอนนี้เป็นเพราะว่าเศรษฐกิจสหรัฐทำได้ดีกว่าใครเพื่อน นี่ไม่ใช่เพราะประเทศอื่นกดสกุลเงินให้ต่ำลง แต่เป็นเพราะนโยบายการคลังและการค้าของทรัมป์ 

หากมีหลักฐานชี้ชัดว่าสงครามการค้าในปัจจุบันกำลังเปลี่ยนไปสู่สงครามสกุลเงิน ก็เตรียมรอดูสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงร่วงลงอย่างหนักได้เลย และนักลงทุนควรจับตามองอย่างใกล้ชิดถึงเหตุการณ์ความคืบหน้าดังกล่าว ต่อจากนี้ไป เงินหยวนจะเป็นสกุลเงินที่ควรจับตามองเป็นหลักเนื่องจากการทะลุเหนือ 6.8 จะทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์จีนรวมถึงวิธีการจัดการสกุลเงินของพวกเขามากขึ้น

ธนาคารกลางของยุโรปจะมีการประชุมในวันพฤหัสบดี หลังจากมีการประกาศในวันที่ 14 มิถุนายนถึงแผนการยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในสิ้นปีนี้ เราจึงคาดว่าจะไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในนโยบายและไม่น่าจะมีเรื่องเซอร์ไพรส์จากฝั่งนี้ สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าคือจับตาดูว่า ECB จะประเมินสถานการณ์ความตึงเครียดทางการค้าล่าสุดว่าเป็นอย่างไร และประธานาธิบดีดรากีจะตอบโต้คำวิพากษ์วิจารณ์ของทรัมป์ในเรื่องการควบคุมสกุลเงินหรือไม่

ในด้านข้อมูล คาดว่า GDP สหรัฐจะขยายตัวมากกว่า 4% ใน Q2 ซึ่งหมายถึงการเติบโตเป็นสองเท่าของ Q1 โดยตัวเลขจะออกมาในวันศุกร์ การเติบโตอย่างรวดเร็วนี้อาจเกิดจากหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภค การลงทุนทางธุรกิจ และสินค้าคงคลัง การเติบโตอย่างรวดเร็วน่าจะช่วยรับประกันการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนกันยายน และดันให้ดอลลาร์สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่เราจะไม่ได้เห็นตัวเลข 4% ในไตรมาสที่จะถึงนี้เนื่องจากภาษีการค้าเริ่มทำร้ายทั้งการส่งออกของสหรัฐและค่าใช้จ่ายในการลงทุนแล้ว

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน