ราคาน้ำมันเปิดบวก 20% ในวันจันทร์
การถูกโดรนโจมตีทำลายความสามารถในการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียลง 5.7 ล้านบาร์เรล
ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ กล่าวโทษอิหร่านในการโจมตี
สัปดาห์นี้เคยคาดว่าจุดสนใจจะอยู่ที่การตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ อังกฤษ ญี่ปุ่น และสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงการเจรจาเรื่อง Brexit และความคืบหน้าของการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม การโจมตีของโดรนในช่วงสุดสัปดาห์ได้ทำให้จุดสนใจมาอยู่ที่โรงงานผลิตน้ำมันดิบแหล่งสำคัญของซาอุดีอาระเบีย เหตุการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างใหญ่หลวง ยิ่งกว่าเหตุการณ์อื่นๆ ที่เกิดขึ้นในสองสามปีมานี้
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 20% ในตอนที่ตลาดเปิดจนเทรดใกล้ $72 ต่อบาร์เรล แต่ปรับตัวลดลงครึ่งหนึ่งของที่บวกขึ้นมาใน 5 ชั่วโมงถัดไป ราคาที่น่าตกตะลึงในวันนี้เป็นราคาสูงที่สุดในเกือบสามทศวรรษตั้งแต่ Saddam Hussein บุกคูเวตเมื่อทศวรรษ 1990 ปฏิกิริยาของราคาน้ำมันดังกล่าวบ่งชี้ว่าเรากำลังเผชิญกับวิกฤติที่คาดไม่ถึงของอุปทานน้ำมันซึ่งอาจสะเทือนเศรษฐกิจโลก
สิ่งที่เรารู้ในตอนนี้ก็คือการโจมตีได้ทำลายกำลังการผลิต 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเท่ากับเกือบ 5% ของอุปทานน้ำมันโลก ทำให้เกิดความตื่นตระหนกว่าจะขาดแคลนอุปทานครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ตอนนี้ ทุกคนเหมือนจะมีคำถามเดียวกันว่าแหล่ง Aramco จะฟื้นความสามารถในการผลิตได้เมื่อใด แต่โชคไม่ดีที่เราไม่มีคำตอบแน่ชัด
ตลาดพลิกจากอุปทานมากเกินไปเป็นอุปทานไม่เพียงพออย่างฉุกละหุก และแม้เราจะรวมความจุของแหล่งสำรองน้ำมันทั้งหมดทั่วโลก แต่ก็ยังไม่ถึงครึ่งของการหยุดชะงักที่เกิดขึ้นในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม ซาอุดีอาระเบียมีการกักเก็บน้ำมันปริมาณมหาศาลเอาไว้ซึ่งจะช่วยคงระดับการส่งออก และสหรัฐฯ ระบุว่าอาจใช้น้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ หากจำเป็น ซึ่งอาจช่วยบรรเทาความเสียหายได้บ้าง แต่ทุกอย่างจะคลี่คลายเมื่อกำลังการผลิตกลับไปเป็นปกติ นอกจากนี้ ยิ่งการหยุดผลิตยาวนานเท่าใด ความเสียหายก็จะยิ่งมากเท่านั้น
ในสามวันที่ผ่านมา ราคาน้ำมันที่แตะระดับ $100 ต่อบาร์เรลคือสถานการณ์ที่แทบเป็นไปไม่ได้ แต่ไม่ใช่อีกต่อไป ไม่เพียงแต่การหยุดผลิตในปัจจุบันของซาอุดีอาระเบีย แต่เป็นความจริงว่าโอกาสเกิดความขัดแย้งทางทหารในภูมิภาคดังกล่าวก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก Mike Pompeo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวโทษอิหร่านในการโจมตีด้วยโดรน และ Lindsey Graham ส.ว.พรรค Republican กล่าวว่าสหรัฐฯ ควรพิจารณาการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของอิหร่าน ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี Trump ได้ออกมาเตือนว่าสหรัฐฯ 'เตรียมตัวพร้อม' หากท่าทีดังกล่าวยังคงออกมาจากฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ ความเสี่ยงด้านการเมืองโลกน่าจะพุ่งขึ้นอย่างมากเนื่องจากการโจมตีอิหร่านอาจทำให้กลุ่มประเทศริมอ่าวทั้งหมดต้องเสี่ยงอันตราย
หากนักลงทุนเริ่มคำนวณความเป็นไปได้ในการโจมตีโครงสร้างเกี่ยวกับน้ำมันดิบของอิหร่าน ราคาน้ำมันอาจวิ่งไปที่เกณฑ์ $100 อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม หากประธานาธิบดี Trump เปลี่ยนใจและยอมให้อิหร่านส่งออกน้ำมัน ความตึงเครียดก็จะลดลง แม้ในขณะนี้ การดำเนินการเช่นนี้จะดูไม่ปกติก็ตาม สองสามวันและสองสามสัปดาห์จากนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อตลาดและเศรษฐกิจโลก ดังนั้น โปรดจับตาดูความคืบหน้าต่อไป
ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน