การวิเคราะห์ตลาดรายวัน

• ข้อตกลงทางการค้าสหรัฐฯ-จีนอาจล่าช้าจนถึงเดือนธันวาคม
• คาดว่า Bank of England จะไม่ปรับอัตราดอกเบี้ย
• ผู้เทรดค่าเงินปอนด์จับตาการโหวตของ MPC

ข่าวในเชิงบวกที่น่าตื่นเต้นมากมายดันให้ราคาสินทรัพย์ทางการเงินบวกตลอดไม่กี่วันมานี้ โดยสามดัชนีสำคัญของสหรัฐฯ ทำจุดสูงสุดครั้งใหม่ หุ้นยุโรปและเอเชียก็บวกเช่นกัน ส่วนค่าเงินหยวนแข็งค่าต่ำกว่า 7 หยวนต่อดอลลาร์ และค่าเงินสำคัญส่วนใหญ่ก็บวกเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดก็คือกระแสข่าวที่บ่งชี้ว่าสหรัฐฯ-จีนจะลงนามในข้อตกลงทางการค้าบางส่วนในเดือนนี้ ส่งผลให้สงครามการค้า 18 เดือนสิ้นสุดลง

แต่รายงานล่าสุดระบุว่าทั้งประธานาธิบดี Donald Trump และ Xi Jinping อาจไม่ลงนามในข้อตกลงทางการค้าส่วนที่ 1 จนกว่าจะถึงเดือนธันวาคม เนื่องจากทั้งคู่มีความเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับสถานที่และเวลาลงนาม ซึ่งไม่น่าแปลกใจมากนักหากคำนึงถึงความตึงเครียดของทั้งสองประเทศ ความกังวลใจของผมไม่ใช่ความล่าช้าเนื่องจากการขยายเวลาไปอีกไม่กี่วันก็ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ แต่จะมีความขัดแย้งมากขึ้นในข้อตกลงหรือไม่ เรื่องนี้เป็นความกังวลใจหลักของผม โดยเฉพาะการลดอัตราภาษีศุลกากรที่จีนอาจร้องขอ ขณะนี้ จีนน่าจะมองว่าตนเองเหนือกว่า เมื่อคำนึงถึงการไต่สวนการกล่าวโทษ Trump และขณะที่เรากำลังใกล้จะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2020 ดังนั้น นักลงทุนจะอยู่ในโหมดรอดู จนกว่าจะมีการประกาศสถานที่และวัน จากนั้น คาดว่าหุ้นจะปรับตัวลงหลังทำสถิติสูงสุดมาหลายเดือน

ผู้เทรดค่าเงินจะจับตาค่าเงินปอนด์ในวันนี้เนื่องจาก Bank of England (BoE) จะประกาศการตัดสินใจด้านนโยบาย ในการประชุมเดือนกันยายน ธนาคารกลางระบุว่าอาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยหากหลีกเลี่ยง Brexit แบบไม่มีข้อตกลงได้ใน 31 ตุลาคม หลังจากนั้น ข้อมูลก็แสดงภาพทางเศรษกิจที่ผสมกันและไม่มีแนวโน้มว่าจะเกิดการปรับลดดอกเบี้ย

แม้คาดว่าธนาคารจะคงอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ แต่ก็น่าสนใจที่จะรอดูว่าสมาชิก MPC หนึ่งหรือสองรายจะออกเสียงให้ลดดอกเบี้ยลงหรือไม่ ทั้งนี้ การออกเสียงดังกล่าวจะบ่งชี้ว่า BoE ยังคงมีจุดยืนที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่าในนโยบายทางการเงินและจะเพิ่มโอกาสลดดอกเบี้ยในต้นปีหน้า โดยสัญญาณใดๆ ของ BoE ที่บ่งชี้ถึงการผ่อนคลายนโยบายน่าจะทำให้เกิดการเทขายเงินปอนด์

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน

ความกังวลด้านการค้าระหว่างสองประเทศยักษ์ใหญ่ของโลกกลับมาหลอกหลอนตลาดอีกครั้งในวันพฤหัสบดีหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งให้ฝ่ายบริหารของเขาพิจารณาเพิ่มภาษีในสินค้าของจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ให้มากขึ้นกว่าสองเท่า อัตราภาษีใหม่ที่เสนอ 25% ดึงหุ้นเอเชียร่วงลงไปอย่างหนักในการเทรดช่วงเช้า ส่งผลให้ดัชนี Hang Seng ลงไปแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2017 ทั้ง CSI 300 และ Shanghai Composite ของจีนต่างร่วงลงไปกว่า 2.5% ขณะที่หยวนยังมีการเทรดอยู่แถวระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งปีอย่างต่อเนื่อง  

จากความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้น นักลงทุนมีต่างอยากรู้ว่าทางการจีนจะทำอย่างไรต่อไปเพื่อป้องกันการปรับลงอย่างหนักอีกครั้งในตลาดหุ้น ผมคิดว่าการผ่อนคลายนโยบายการคลังและการเงินต่อไปจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับตอนนี้ อย่างไรก็ตาม คงจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจหากได้เห็นจีนเริ่มปล่อยอาวุธที่ร้ายแรงกว่านี้กับสหรัฐโดยทำการขายตั๋วเงินคลังมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ที่ถืออยู่ในปัจจุบัน  ภัยคุกคามดังกล่าวจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นอย่างมากในอัตราผลตอบแทนของพันธบัตร และทำให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นสำหรับรัฐบาล บริษัท และผู้บริโภค หากจีนใช้ไม้ตายนี้ เราจะได้เห็นการเทขายอย่างรุนแรงในหุ้นสหรัฐและหุ้นทั่วโลก แต่ดูเหมือนว่าทางการจีนจะเก็บท่าไม้ตายนี้ไว้ใช้ในทีหลัง

อย่างที่คาด ธนาคารกลางสหรัฐคงอัตราดอกเบี้ยไว้ไม่เปลี่ยนแปลงในวันพุธขณะที่ยังคงทำให้รับรู้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะดำเนินต่อไป อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงในแถลงการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าธนาคารกลางสหรัฐเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐปรับสูงขึ้น คณะกรรมการกล่าวว่าการดำเนินการทางเศรษฐกิจมีการปรับตัวสูงขึ้นในอัตราที่เข้มแข็งและการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและการลงทุนทางธุรกิจก็เติบโตขึ้นอย่างมาก การปรับเปลี่ยนในคำพูดเล็กน้อยนี้แสดงให้เห็นว่าเราจะได้เห็นการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกครั้งในเดือนกันยายนและอาจจะในเดือนธันวาคมด้วย 

ธนาคารกลางแห่งประเทศอังกฤษจะมีการประชุมในวันนี้และไม่เหมือนกับเฟดที่ตลาดคาดว่าจะได้เห็นการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 25 bps เสียที อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่ได้หมายความว่าปอนด์จะปรับขึ้นด้วย แม้ว่าเศรษฐกิจของอังกฤษจะฟื้นตัวเล็กน้อยจากไตรมาสแรก แต่ความไม่แน่นอนของ Brexit ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งทำให้การตัดสินใจในวันนี้เป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก ผู้เทรดสเตอร์ลิงควรมุ่งเน้นไปที่แนวโน้มของทิศทางซึ่งน่าจะเป็นไปในรูปแบบผ่อนคลาย หากสมาชิกนโยบายของ MPC มากกว่าหนึ่งรายไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ให้เตรียมคาดว่าสเตอร์ลิงจะปรับลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์ได้เลย อย่างไรก็ตาม หาก BoE เลือกที่จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะกลายเป็นเรื่องสุดช็อคและเราอาจได้เห็นการปรับลง 200 ถึง 300 pip

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน