การวิเคราะห์ตลาดรายวัน

นักลงทุนเริ่มต้นเดือนสุดท้ายของปีด้วยความครึกครื้น หุ้นทั่วตลาดเอเชียมีการเทรดกันในแดนบวกในวันจันทร์โดยผลตอบแทนตราสารหนี้ของสหรัฐแบบ 10 ปีกลับขึ้นมาอยู่เหนือ 1.8% และเงินเยนอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

อารมณ์เสี่ยงลงทุนได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจดีกว่าที่คาดการณ์ไว้จากจีน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมจาก Caixin/Markit ปรับขึ้นเป็น 51.8 ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งถือว่าเป็นการขยายตัวเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2016 ขณะเดียวกัน PMI ภาคการผลิตอย่างเป็นทางการที่ปล่อยออกมาในช่วงสุดสัปดาห์กลับมาเติบโตอีกครั้งในรอบเจ็ดเดือนและสูงกว่าระดับ 50 จุดอย่างมาก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางการค้าที่ลดลงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัวเลขดีขึ้น แต่เศรษฐกิจลงไปแตะจุดต่ำสุดแล้วหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับผลของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ถึงกระนั้น PMI ของจีนก็นำ PMI ทั่วโลกอยู่หลายช่วงและจีนก็เป็นแรงขับเคลื่อนหนึ่งในสามของการเติบโตของ GDP โลกดังนั้นจึงพอจะมองเห็นแสงอยู่บ้างรำไร

รายงานการจ้างงานของสหรัฐ

หลังจากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสามครั้งตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2019 เฟดก็ส่งสัญญาณว่าจะหยุดชั่วคราว หากเราไม่เห็นการถดถอยลงของข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติม ก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะสนับสนุนให้มีมาตรการผ่อนคลายอีกครั้งในระยะเวลาอันใกล้นี้ รายงานการจ้างงานในวันศุกร์คาดว่าจะแสดงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 180,000 เนื่องจากการจ้างงานตามฤดูกาลดีขึ้นและพนักงานจีเอ็ม 45,000 คนกลับเข้าทำงานอีกครั้งหลังจากประท้วงหยุดงานมาเป็นเวลานาน รายได้เฉลี่ยคาดว่าจะดีขึ้นเล็กน้อยในเดือนพฤศจิกายนและอัตราการว่างงานน่าจะทรงตัวอยู่ที่ 3.6% หากตัดเรื่องเซอร์ไพรส์ทั้งหมดออก ตัวเลขอาจสอดคล้องกับการประเมินของนายเจอโรม พาวเวลล์ประธานเฟดว่าเศรษฐกิจยังคงมีช่องว่างให้ขยายตัวต่อไปอีก

นักลงทุนจะต้องคอยจับตาดูข้อมูล ISM อย่างใกล้ชิดด้วยซึ่งน่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากการมองในแง่ดีเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ตัวเลขการจ้างงานและ ISM จะเป็นองค์ประกอบหลักสำหรับการวิ่งขึ้นของหุ้นในเดือนธันวาคม

การเลือกตั้งในสหราชอาณาจักร

สเตอร์ลิงติดอยู่แถว 1.28 – 1.30 เนื่องจากเทรดเดอร์พยายามคาดเดาผลการเลือกตั้งในวันที่ 12 ธันวาคม ซึ่งดูเหมือนว่าเทรดเดอร์ลังเลที่จะเดิมพันครั้งใหญ่แม้จะมีโพลของ YouGov ล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าพรรคอนุรักษ์นิยมน่าจะชนะด้วยเสียงข้างมากสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1987 พรรคแรงงานฝ่ายค้านพยายามที่จะหว่านล้อมผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนโดยจุดชนวนความหวั่นวิตกเกี่ยวกับหนทางในอนาคตของระบบบริการสุขภาพประเทศสหราชอาณาจักรหรือ NHS หากสหราชอาณาจักรทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐอเมริกา

ผลสำรวจล่าสุดจาก BMG Research ชี้ว่าคำแนนนำของพรรคอนุรักษ์นิยมลดลง 2% เป็น 39% ขณะที่พรรคแรงงานได้เพิ่ม 5% ลดช่องว่างคะแนนนำลงให้เหลือเพียง 6 จุด ผลสำรวจที่เปลี่ยนไปมานี้ทำให้ยากต่อการคาดเดาผลการเลือกตั้ง แต่หากมีสัญญาณใดๆ ถึงการลดช่องว่างของคะแนนลงอีกก็จะเป็นข่าวร้ายสำหรับกระทิงในสเตอร์ลิง 

การประชุมของธนาคารกลาง

ธนาคารกลางแคนาดาและธนาคารกลางออสเตรเลียจะมีการแถลงผลการตัดสินใจในอัตราดอกเบี้ยสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าทั้งสองจะไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย แต่เราก็ไม่ควรตัดโอกาสที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปเลย

แคนาดามีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาสที่สามเนื่องจากความต้องการทั่วโลกลดลง ที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือการจ้างงานลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนตุลาคมโดยสูญเสีย 1,800 ตำแหน่งงานเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 15,900 ตำแหน่ง ออสเตรเลียก็มีสภาพที่คล้ายกันโดยมีตลาดแรงงานที่แย่ลงและอัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าเป้าหมาย หากเราไม่เห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ คาดว่าธนาคารกลางทั้งสองจะมีมาตรการที่โอนอ่อนกว่านี้

การประชุม OPEC

ในที่สุดนักเทรดน้ำมันก็จะได้รับคำตอบเกี่ยวกับนโยบายของ OPEC ไม่ว่าจะเป็นการขยายเวลาหรือลดกำลังการผลิตอย่างหนักในปี 2020 เราจะได้รู้กันในสัปดาห์นี้ ข้อตกลงลดกำลังการผลิตจำนวน 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันจะหมดอายุในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม 2020 อย่างไรก็ตามคาดว่าสินค้าคงคลังทั่วโลกจะยังคงเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีหน้าเนื่องจากมีแรงอุปสงค์ที่เบาบางและอุปทานที่มากกว่าจากประเทศนอกกลุ่ม OPEC โดยเฉพาะจากสหรัฐ เพื่อให้ราคาขยับไปอยู่เหนือระดับล่าสุดที่ $55 - $65 เราจะต้องเห็น OPEC+ ดำเนินการที่เด็ดเดี่ยวกว่านี้ เช่นลดเป้าหมายการผลิตลงมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะให้ความร่วมมือปฏิบัติตามนั้นค่อนข้างต่ำโดยเฉพาะจากตัวละครหลักบางรายอย่างเช่นรัสเซีย ซึ่งดูเหมือนว่าการลดกำลังการผลิตมากกว่านี้น่าจะเป็นงานที่ยาก

คาดว่าความผันผวนของราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้โดยมีความเสี่ยงเอียงไปทางด้านปรับลดลง ผลลัพธ์ใดๆ นอกเหนือจากการปฏิบัติตามระเบียบที่เข้มงวดกว่าเดิมหรือการลดกำลังการผลิตมากขึ้นนั้นมีแนวโน้มที่จะเพิ่มแรงเทขาย

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน

• รายงานการจ้างงานลดความกลัวจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
• ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปลายเดือนนี้
• ทุกคู่สายตาจับจ้องวอชิงตันในสัปดาห์นี้เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนเริ่มดำเนินต่อ

หลังจากผ่านพ้นสัปดาห์แห่งความวุ่นวายในตลาดการเงินไป รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาช่วยยั้งการเทขายหุ้นเพิ่มเติมได้ S&P 500 ลดลงเกือบ 3% ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาจากตัวเลขภาคการผลิตและตัวเลขการจ้างงานเอกชนที่น่าผิดหวัง โดยทั้งสองอย่างนี้ส่งผลคุกคามต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างหนักหน่วง อารมณ์เสี่ยงลงทุนกลับมาอีกครั้งในวันศุกร์หลังจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรแสดงให้เห็นว่ามีการเพิ่มงาน 136,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้วและตัวเลขเดือนสิงหาคมได้รับการปรับแก้ให้สูงขึ้น

ขณะเดียวกันอัตราการว่างงานลดลงอย่างน่าประหลาดใจไปยังระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปีที่ 3.5% ข่าวร้ายสำหรับผู้บริโภคสหรัฐคือค่าแรงเพิ่มขึ้นเพียง 2.9% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นอัตราที่อ่อนที่สุดในรอบปีกว่า อย่างไรก็ตามนี่เป็นข่าวน่ายินดีสำหรับผู้ลงทุนในหุ้นเนื่องจากการเติบโตของค่าแรงที่ชะลอตัวลงช่วยลดความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและชี้ชวนว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงต่อไป 

ข้อสรุปที่ได้จากการเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจในสัปดาห์ที่ผ่านมาคือเศรษฐกิจสหรัฐกำลังแสดงสัญญาณของการชะลอตัว แต่ไม่เพียงพอที่จะตกอยู่ในภาวะถดถอยในอนาคตอันใกล้นี้ นี่หมายความว่าจะมีช่องว่างเพิ่มเติมสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2019 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง จากการอ้างอิงข้อมูลของ CME Fedwatch Tool ตลาดมองว่ามีโอกาส 84% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดในเดือนตุลาคม และมีความเป็นไปได้ 43% ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในเดือนธันวาคม

ในวันพุธ เฟดจะเปิดเผยรายงานการประชุมเดือนกันยายนซึ่งผู้กำหนดนโยบายระบุว่าไม่มีแผนปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้และปีหน้า รายงานการประชุมมีแนวโน้มที่จะแสดงการแบ่งฝ่ายของคณะกรรมการอย่างชัดเจนจากการตัดสินใจของเฟดที่เสียงแตกในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเดือนที่ผ่านมา แต่ข้อมูลและการเจรจาการค้าที่กำลังจะเกิดขึ้นจะเป็นผู้ตัดสินเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายด้านการเงิน

อีกรอบกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน

เหตุการณ์ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดในสัปดาห์นี้คือการกลับมาเจรจาการค้ากันอีกครั้งระหว่างสหรัฐกับจีนในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกได้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมากในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาเนื่องจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ประธานาธิบดีทรัมป์อาจยินดียอมรับข้อตกลงที่มีการแก้ไขเพื่อหลีกเลี่ยงการเทขายต่อไปในวอลล์สตรีท โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการมีการฟ้องร้องดำเนินคดีที่ยังคงดำเนินอยู่ แต่ก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าจีนจะให้สัมปทานนโยบายอุตสาหกรรมหรือเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องสำคัญจากฝ่ายบริหารงานของสหรัฐ

หากการเจรจาล้มเหลว ก็อาจมีการเทขายครั้งใหม่ในตลาดหุ้นเกิดขึ้นและมีการวิ่งขึ้นในมูลค่าพันธบัตรและทองคำ  

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน

ความขัดแย้งทางการค้าครองพาดหัวข่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่นักลงทุนในวอลล์สตรีทก็ไม่สนใจถึงความกังวลในเรื่องสงครามการค้าที่ยกระดับขึ้นและดีใจกับรายงานการจ้างงานของสหรัฐมากกว่า งาน 213,000 ตำแหน่งถูกเพิ่มเข้าในเศรษฐกิจสหรัฐเดือนมิถุนายน ซึ่งเยอะกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 195,000 อย่างมาก ในขณะเดียวกัน ตัวเลขเดือนพฤษภาคมถูกปรับแก้ไขเพิ่มขึ้นเป็น 244,000 จาก 223,000 การเติบโตของค่าแรงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่เติบโต 2.8% y-o-y โดยอยู่ที่ 2.7% อย่างไรก็ตาม การผสมผสานระหว่างการเติบโตของการจ้างงานที่เข้มแข็งและอัตราเงินเฟ้อในค่าแรงที่จำกัดก็เป็นส่วนผสมที่ดีสำหรับหุ้นมาโดยตลอดด้วยเหตุผลง่ายๆ การเติบโตของการจ้างงานที่แข็งแรงสะท้อนถึงความเข้มแข็งในระบบเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในค่าแรงที่อ่อนลงจะช่วยให้ธนาคารกลางสหรัฐมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในกระบวนการกระชับนโยบายการเงิน

แต่ดนตรีอาจจะหยุดลงเมื่อไหร่ก็ได้ หากนักลงทุนรู้สึกว่าข้อพิพาททางการค้าเคลื่อนไปผิดทิศ จนถึงตอนนี้ สหรัฐได้กำหนดภาษีศุลกากรในสินค้านำเข้าจากจีนไปแล้วจำนวน 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เช่นเดียวกับที่จีนทำกับสินค้านำเข้าของสหรัฐ เวทีนี้ได้มีการปรับราคาไว้ล่วงหน้าแล้วและเมื่อดูผลงานของหุ้นเอเชียในวันนี้ ก็ดูเหมือนนักลงทุนจะไม่เชื่อว่าสงครามการค้าเต็มรูปแบบจะไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงประธานาธิบดีทรัมป์mujคาดเดาไม่ได้ โมเมนตัมด้านบวกก็มีแนวโน้มที่จะถูกจำกัดอยู่ โดยเฉพาะในหุ้นวัฏจักร จนกว่าเราจะได้เห็นความชัดเจนในด้านการค้ามากขึ้น

ในตลาด FX ดัชนีดอลลาร์ร่วงไปที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน โดยเทรดอยู่ใต้ 94 อันเป็นผลมาจากการเติบโตของค่าจ้างที่ชะงักงัน เทรดเดอร์ควรจับตามองดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐในวันพฤหัสบดีอย่างใกล้ชิด โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.9% y-o-y ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2012 หาก CPI ก้าวข้ามเกณฑ์ที่ 3% ไปได้ ก็เตรียมรอกระทิงในดอลลาร์กลับมาอย่างแข็งเกร่งได้เลยเพราะนี่หมายความว่าเฟดไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกระชับนโยบายมากขึ้น 

ในขณะเดียวกัน ปอนด์ก็มั่นคงมากอย่างน่าแปลกใจหลังจากที่เดวิด เดวิส เลขานุการ Brexit ประกาศลาออก GBPUSD มีการเทรดอยู่แถว 1.3300 ณ เวลาที่เขียนอยู่นี้ การเทรดเงินปอนด์ในช่วงนี้จะค่อนข้างซับซ้อนเล็กน้อยและจะและจะขึ้นอยู่กับผลของการเจรจากับสหภาพยุโรปหลังจากเดวิสลาออกและความอยู่รอดของเทเรซา เมย์เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม จากปฏิกิริยาของตลาดในวันจันทร์ ดูเหมือนเทรดเดอร์จะเชื่อว่าเรากำลังจะมุ่งไปยัง Brexit ที่อ่อนข้อลง

ราคาน้ำมันเริ่มต้นสัปดาห์ในแดนบวกแม้ว่าแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ทำงานอยู่ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 5 แห่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทวีตของทรัมป์เกี่ยวกับการผลักดันให้โอเปคเพิ่มกำลังการผลิตพิสูจน์แล้วว่ามีผลต่อการดึงราคาลงมาไม่มากนัก สภาวะตลาดแบบ Backwardation ยังคงทำให้โค้งราคาฟิวเจอร์สของ Brent และ WTI ชันขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงความตึงในตลาดน้ำมัน ทุกคู่สายตาจะจับจ้องไปที่การผลิตของโอเปคในเดือนนี้ โดยเฉพาะจากซาอุดีอาระเบียหลังจากที่ทรัมป์พยายามกระตุ้นให้องค์กรนี้ดำเนินการเพื่อให้ราคาลดลง

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน

หุ้นทั่วโลกน่าจะปรับลงในวันจันทร์เนื่องจากความกังวลต่อสงครามการค้าระดับโลกยังคงดำเนินต่อไปซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน สหภาพยุโรปตอบโต้คำขู่ด้านภาษีศุลกากรของนายโดนัลด์ ทรัมป์อย่างรวดเร็วโดยการเรียกประชุมในสัปดาห์นี้เพื่อหารือถึงมาตรการรับมือในกรณีที่สหรัฐฯ ดำเนินการปรับอัตราภาษีศุลกากรในเหล็กกล้าและอลูมิเนียม นายฌอง-โคลด ยุงเคอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปน่าจะโต้กลับด้วยการเสนอมาตรการต่อต้านสหรัฐฯ และเป็นเช่นเดียวกันสำหรับแคนาดาและจีน

ผมคาดว่าสงครามการค้านี้จะยุ่งเหยิงและสร้างความผันผวนเพิ่มขึ้นอีกในหุ้น ตราสารหนี้ และตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินในระยะสั้น  อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่านี่อาจจบลงด้วยการที่สหภาพยุโรปและจีนมีท่าทีป้องกันตัวเล็กน้อย มากกว่าที่สหรัฐฯ จะมีท่าทีที่แข็งกร้าวมากยิ่งขึ้น เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้างในระยะยาว และผู้กำหนดนโยบายทราบเรื่องนั้นดี จนกว่าจะหงายไพ่ในสถานการณ์ทั้งหมด ผมคาดว่าจะได้เห็นการเทขายเพิ่มเติมอีกในหุ้นและแม้แต่ในตลาดตราสารหนี้ โดยที่มีผู้รับผลประโยชน์หลักเป็นเงินเยนญี่ปุ่นและทองคำ

ยูโรไม่พบแรงสนับสนุนหลังจากที่พรรค SPD โหวตให้มีการจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรค CDU ของนางอังเกลา แมร์เคิล การที่ยูโรไม่มีปฏิกิริยาใดๆ นั้นส่วนใหญ่เนื่องมาจากความกังวลว่าการเลือกตั้งของอิตาลีจะมีภาวะสภาแขวน สหภาพยุโรปมีเรื่องใหม่ให้ต้องปวดหัวอีกหากอิตาลีจัดตั้งรัฐบาลผสมที่มีกลุ่มต่อต้านสหภาพยุโรป (Eurosceptic) ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเป็นความท้าทายในเรรื่องของกฎงบประมาณของสหภาพยุโรป คาดว่าจะได้เห็นการปรับลงอย่างรุนแรงในหุ้นของอิตาลีในวันนี้  

ในด้านของข้อมูล PMI ภาคการบริการของยูโรโซนน่าจะแสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวลงเล็กน้อยในช่วงสายของวันนี้ แบบเดียวกับที่เราเห็นในภาคการผลิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ตัวเลขไม่น่าจะส่งผลต่อยูโรเท่าใดนัก

นักลงทุนมีข่าวสารมากมายให้วิเคราะห์ในสัปดาห์นี้

การประชุมด้านนโยบายการเงิน

การประชุมของธนาคารกลางยุโรปในวันพุธนั้นคาดว่าน่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในโปรแกรมการซื้อสินทรัพย์หรือในอัตราดอกเบี้ย เทรดเดอร์ควรจับตามองไปที่คำแถลงเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในแนวโน้มของทิศทางนโยบายการเงิน จากผลงานที่ดีในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน นักลงทุนหลายคนต่างรอสัญญาณว่าเมื่อไหร่ที่ ECB จะยุติการซื้อพันธบัตร ในตอนนี้ผมคิดว่าคงจะยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม โอกาสในการขยายขนาด QE น่าจะถูกถอดออกจากแถลงการณ์ ดังนั้น การประชุมก็น่าจะให้ผลบวกต่อ EUR เล็กน้อย

ธนาคารกลางแห่งประเทศแคนาดาและธนาคารกลางแห่งประเทศออสเตรเลียจะมีการประชุมในสัปดาห์นี้เช่นกัน จากข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่มีการชะลอตัวลงเล็กน้อย ผมคิดว่าธนาคารกลางทั้งสองจะคงนโยบายไว้ไม่เปลี่ยนแปลงและการประชุมเหล่านี้ก็น่าจะไม่สร้างเหตุการณ์ใดๆ ให้นักเทรดสกุลเงิน

รายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ

เทรดเดอร์ควรจับตามองอย่างใกล้ชิดในรายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ แม้จะมีการคาดการณ์ว่าการจ้างงานเพิ่มจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนกุมภาพันธ์และการจ้างงานจะคงอยู่ที่ 4.1% ตัวเลขทั้งสองนี้จะถูกเมิน เพราะนักลงทุนต่างจับตามองไปที่ตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเป็นหลัก หลังจากมีการปรับเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบเกือบทศวรรษ อัตราการเติบโตของค่าจ้างคาดว่าน่าจะลดลง 0.4% YoY หากเป็นเช่นนี้ ความวิตกกังวลในภาวะเงินเฟ้อก่อนหน้านี้ที่ส่งผลให้หุ้นร่วงลงอย่างรุนแรงในตอนต้นเดือนกุมภาพันธ์ก็น่าจะผ่อนคลายลง     

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน