การวิเคราะห์ตลาดรายวัน

• นักลงทุนประเมินความเป็นไปได้ของข้อตกลง “เฟสแรก” ของประธานาธิบดีทรัมป์
• ตลาดเตรียมรับมือกับความเสี่ยงการเสื่อมสภาพในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
• น้ำมันเบรนท์ไม่สามารถลอยอยู่เหนือ $60/บาร์เรลได้เนื่องจากนักลงทุนไม่เต็มใจที่จะให้การชดเชยความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์
• GBPUSD ยังอยู่เหนือ 1.26 ขณะที่นับเวลาถอยหลังสู่การประชุม EU Summit

หุ้นเอเชียและสกุลเงินแกว่ง เนื่องจากการกระเด้งจากการสงบศึกช่วงหลังการเจรจาการค้ากำลังหมดแรง ตอนนี้นักลงทุนกำลังชั่งน้ำหนักของขั้นตอนต่อไปหลังจากที่มีข่าวเรื่องข้อตกลงเฟสแรก “ที่สำคัญมาก” ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์คุยอวด ตามรายงานของสื่อ จีนยังไม่ได้มองโลกในแง่ดีเช่นเดียวกันนั้นในข้อตกลงการค้าที่ใกล้เข้ามา โดยอาจมีการเจรจาการค้าเกิดขึ้นอีกในช่วงปลายเดือนตุลาคม

ความพลิกผันล่าสุดในความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนเป็นการเตือนใจนักลงทุนอีกครั้งหนึ่งว่าไม่ให้ตื่นเต้นจนเกินเหตุในเรื่องนี้ การพยายามสมานความขัดแย้งทางผลประโยชน์ระหว่างสองประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกเป็นงานใหญ่ยักษ์ ซึ่งได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีความยืดเยื้อและซับซ้อน เมื่อพิจารณาว่าตอนนี้ทองคำกำลังขยับไปทาง $1,500 ขณะที่ผลตอบแทนตราสารหนี้ของสหรัฐแบบ 10 ปีลดลงต่ำกว่าระดับทางจิตวิทยาที่ 1.70 ดูเหมือนนักลงทุนจะเตรียมตัวรับมือกับความเสี่ยงที่ว่าการหยุดพักของความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนในขณะนี้อาจเกิดความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งก็ได้

น้ำมันเบรนท์ต้องดิ้นรนเนื่องจากการมองโลกในแง่ดีจากข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนจางหายไป

การลอยอยู่เหนือ $60/บาร์เรลของน้ำมันเบรนท์ดูเหมือนจะอยู่ได้แค่เพียงชั่วครู่ โดยที่ฟิวเจอร์สปรับลงไปแล้ว 2.9 เปอร์เซ็นต์ในสัปดาห์นี้ ตลาดดูไม่เต็มใจที่จะให้ค่าชดเชยความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์กับราคาน้ำมันเนื่องจากความกังวลด้านอุปสงค์ยังคงส่งผลกระทบต่อแนวโน้มโลก

ราคายังคงแกว่งไปมาตามความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งได้ทำให้มีการปรับลดลงแล้วหลายรอบในการเติบโตทั่วโลกรวมถึงความต้องการใช้น้ำมัน ในระยะเวลาอันใกล้นี้ หากข้อมูลจาก EIA ในวันพฤหัสบดียืนยันการคาดการณ์ของตลาดว่าตัวเลขน้ำมันดิบในคลังของสหรัฐมีการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ห้า นี่อาจทำให้ราคาปรับลดลงไปอีก แนวโน้มเศรษฐกิจโลกของ IMF ที่จะมีการเผยแพร่ในวันนี้คาดว่าจะเพิ่มผลในทางลบเข้ามาอีกเนื่องจากความตึงเครียดทางการค้ายังคงส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก

การประชุมสุดยอดผู้นำของสหภาพยุโรปเป็นอุปสรรคต่อข้อตกลง Brexit ในทันที

GBPUSD มีการเทรดกันอยู่เหนือระดับ 1.26 ณ เวลาที่เขียนอยู่นี้ การที่คณะมนตรีของสหภาพยุโรปลดความคาดหวังว่าข้อตกลง Brexit สามารถเกิดขึ้นได้ก่อนที่จะมีการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรปเป็นการชี้ว่าการเจรจา Brexit อาจต้องขยายเวลาออกไป

ต้องรอดูกันต่อไปว่านายบอริส จอห์นสันนายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรจะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ Benn Act หรือไม่ ซึ่งระบุว่าเขาต้องขอขยายเวลา Brexit หากไม่บรรลุข้อตกลงภายในวันเสาร์นี้ การขอขยายเวลา Brexit นั้นจะสั่นคลอนความน่าเชื่อถือของนายบอริสเป็นอย่างมาก เนื่องจากเขายืนกรานซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า Brexit จะต้องเกิดขึ้นภายในวันที่ 31 ตุลาคม ด้วยบริบทดังกล่าว บวกกับการกล่าวถึงความทะเยอทะยานด้าน Brexit ของนายบอริสโดยผู้นำสหภาพยุโรปและเวสต์มินสเตอร์ นักเทรดสเตอร์ลิงอาจได้เห็นความกระอักกระอ่วนก่อตัวขึ้นในการประชุม EU Summit ในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน

• ตลาดมีจังหวะที่จะทะลุขึ้นเพราะออกจากสถานการณ์คลุมเครือ
• ปอนด์บวกเมื่อเทียบกับค่าเงินของกลุ่ม G10 และค่าเงินเอเชียส่วนใหญ่ โดยที่ GBPUSD ยังคงลดลง 1.6 เปอร์เซ็นต์หลังจาก Johnson รับตำแหน่งนายกฯ
• นักลงทุนทั่วโลกยังคงมีมุมมองในเชิงบวกจนกว่าจะถึงการเจรจาการค้าของจีน-สหรัฐฯ ส่วนข้อตกลง Brexit ก็เริ่มชัดเจนขึ้น

สินทรัพย์เสี่ยงจึงมีโอกาสอันหาได้ยากที่จะหลุดพ้นจากสถานการณ์คลุมเครือซึ่งปกคลุมตลาดก่อนหน้านี้ แนวโน้มของตลาดได้รับการกระตุ้นจากข่าวดีที่ว่าจีนและสหรัฐฯ ตกลงอย่างเป็นทางการว่าจะกลับมาเจรจาทางการค้าในเดือนตุลาคม ขณะความตั้งใจของนายกฯ Boris Johnson ของอังกฤษที่จะไม่ทำข้อตกลง Brexit ถูกยับยั้งอย่างหนักหลังสภาคัดค้านการออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 ตุลาคมโดยไม่มีข้อตกลง รวมถึงยังปฏิเสธการเลือกตั้งที่ฉุกละหุก

สถานการณ์ที่ดีขึ้นเช่นนี้ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวในทิศทางบวก หุ้นเอเชียเขียวยกแผง ขณะที่ค่าเงินเอเชียส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เงินวอนเกาหลีใต้วิ่งนำโดยบวก 0.8 เปอร์เซ็นต์เทียบกับดอลลาร์ในเวลาที่เขียน

ส่วนสินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวปานกลางโดยทองลดลงประมาณ 0.3 เปอร์เซ็นต์ ค่าเงินเยนอ่อนลงประมาณ 0.3 เปอร์เซ็นต์ก่อนจะดิ่งลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปีบวกเหนือแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1.50 เปอร์เซ็นต์

สภาอังกฤษตัดสินใจเกี่ยวกับจุดยืนเรื่อง Brexit ของนายกฯ Johnson ว่าจะ “สู้หรือยอมแพ้”

เงินปอนด์ยืนเหนือ 1.22 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเคลื่อนไหวบวกเทียบกับค่าเงินเอเชียและกลุ่มประเทศ G10 ส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดไม่เชื่อว่าอังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลงอาจส่งผลต่อตลาดเป็นหลักในตอนนี้ เมื่อพิจารณาว่าค่าเงินปอนด์ยังคงอยู่ในระดับที่ลดลง 1.6 เปอร์เซ็นต์ หลัง Boris Johnson เข้ารับตำแหน่งนายกฯ ในเดือนกรกฎาคม

Brexit ในอนาคตอาจทำให้เกิดการเลือกตั้งซึ่งอาจทำให้มีมุมมองว่า Brexit จะไม่มีข้อตกลงอีกครั้งในกรณีที่นายกฯ Johnson ได้คะแนนเสียงส่วนใหญ่ แม้ทางเลือกส่วนใหญ่ที่ให้ชะลอการออกจากสหภาพยุโรปจะส่งผลดีต่อตลาดมากกว่า แต่ก็เป็นทางแก้ระยะสั้น ปล่อยให้ปัญหา Brexit ยังค้างคาขณะที่กดดันค่าเงินปอนด์ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับ Brexit ที่นานยิ่งขึ้นอาจทำให้ค่าเงินปอนด์ยังคงอ่อนแอเพราะความเสี่ยงทางการเมืองของอังกฤษ

นักลงทุนมากประสบการณ์ทั่วโลกยังคงระวังเรื่องความตึงเครียดจากการค้าจีน-สหรัฐฯ

แม้สินทรัพย์เสี่ยงจะบวก แต่นักลงทุนทั่วโลกยังคงไม่วางใจในการบวกจากข่าวว่าจีนและสหรัฐฯ จะเจรจาทางการค้าในเดือนหน้า อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่มีประสบการณ์สูงมองว่าสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ในอนาคตยังน่าสับสนในกรอบเวลารายปี

ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นถูกบรรเทาด้วยข่าวเชิงบวกล่าสุดว่ากำแพงระหว่างจีน-สหรัฐฯ อาจหมดไปและมีผลเต็มที่ต่อเศรษฐกิจโลก หากต้องการให้มีการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ตลาดจะต้องส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าสหรัฐฯ และจีนใกล้ได้ข้อสรุปสำคัญที่มีผลต่อไปในการเจรจา ภาษีศุลกากรต้องถูกยกเลิกเพื่อบรรเทาแรงกดดันต่อเศรษฐกิจโลก เมื่อถึงตอนนั้น การบวกของสินทรัพย์เสี่ยงคาดว่าจะจำกัดขณะที่สินทรัพย์ปลอดภัยน่าจะคงที่เนื่องจากส่วนใหญ่เพิ่งปรับตัวขึ้น

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน

หุ้นและสกุลเงินเอเชียต่างได้รับประโยชน์จากอารมณ์ความรู้สึกที่ดีในตลาดหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐกับสี จิ้นผิงประธานาธิบดีจีนตกลงที่จะเริ่มเจรจาการค้ากันใหม่ หยวนนอกชายฝั่งทำได้ดีที่สุดในเอเชียในเช้าวันจันทร์ โดยไต่ระดับขึ้นไป 0.6 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ณ เวลาที่เขียนอยู่นี้ ขณะเดียวกันสินทรัพย์ปลอดภัยเริ่มสูญเสียที่มั่นจากการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่หดถอยลงโดยที่ทองคำร่วงไปต่ำกว่าระดับทางจิตวิทยาที่ $1400 ขณะที่เงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลง 0.3% เพื่อกลับไปอยู่เหนือระดับ 108 เมื่อเทียบกับดอลลาร์

การประกาศสงบศึกระหว่างสหรัฐกับจีนลดความน่าจะเป็นที่จะมีการเก็บภาษีเพิ่มเติมในระยะเวลาอันใกล้นี้ในการจัดส่งระหว่างสองประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก ทำให้ตลาดได้ไฟเขียวในการผลักดันเข้าสู่เขตเสี่ยงลงทุนสำหรับในตอนนี้

การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนจะนำไปสู่ข้อตกลงที่เป็นรูปธรรมหรือไม่?

การกลับมาเริ่มเจรจาการค้ากันใหม่อีกครั้งของสหรัฐกับจีนไม่ได้หมายความว่าจะมีข้อตกลงทางการค้าเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แม้จะหลีกเลี่ยงการสะบั้นความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนไปได้อย่างน้อยก็ในตอนนี้ แต่อัตราภาษีที่กำหนดไว้สำหรับการค้าโลกยังคงมีผลบังคับใช้อยู่และคาดว่าจะยังคงถ่วงน้ำหนักต่อการเติบโตของโลกต่อไป

การพักรบระหว่างสหรัฐกับจีนครั้งนี้อาจทำให้ตลาดปรับตัวสูงขึ้นได้แค่เพียงชั่วคราว เนื่องจากคำแถลงจากทั้งสองรัฐบาลดูเหมือนจะเป็นแค่การเตะถ่วง เส้นทางสู่ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่ยั่งยืนยังคงไม่ชัดเจนในแง่ของความซับซ้อนและความอ่อนไหวที่เกิดขึ้นในระหว่างการเจรจาจากช่วงต้นของปีนี้ ความเสี่ยงที่การเจรจาจะล้มเหลว หรือความตึงเครียดลุกลามขึ้นอีกครั้ง ยังคงโผล่มาได้อีกในอนาคตและเข้าโจมตีมุมอับของนักลงทุนซ้ำรอยเดิม

นักลงทุนที่มีความกังวลใจจะคิดไตร่ตรองว่าจะเข้าอีหรอบเดิมอีกหรือไม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ในระหว่างนี้ สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงก็คาดว่าจะได้เพลิดเพลินในอากาศที่สดใสจนกว่าพายุเมฆความตึงเครียดที่นำโดยสหรัฐจะเข้าปกคลุมความเชื่อมั่นในตลาดอีกครั้ง

น้ำมันทะยานขึ้นจากโอกาสที่โอเปค+ จะขยายเวลาลดกำลังการผลิต

น้ำมันเบรนท์และน้ำมันดิบ WTI ใกล้จะปรับขึ้นถึง 2% ตามลำดับในขณะที่เขียนอยู่นี้ หลังจากที่รัสเซียและซาอุดิอาระเบียตกลงที่จะควบคุมปริมาณการผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปี 2019 เป็นอย่างน้อย ข้อตกลงระหว่างสองผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในกลุ่มโอเปค+ น่าจะช่วยปูทางในท่าทีอย่างเป็นทางการของพันธมิตรที่จะขยายเวลาลดกำลังการผลิตไว้ให้แล้ว เนื่องจากการประชุมกลุ่มในกรุงเวียนนาเริ่มขึ้นในวันนี้

ราคาน้ำมันน่าจะได้รับการบรรเทาในทันทีจากการคาดว่าโอเปค+ จะขยายเวลาลดกำลังการผลิต พร้อมด้วยความเชื่อมั่นในเชิงบวกประกอบกับการฟื้นการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนอีกครั้ง แม้การขยายเวลาอย่างเป็นทางการน่าจะช่วยสร้างฐานที่แข็งแกร่งให้กับราคาน้ำมันได้ แต่ความกังวลที่ยังคงมีอยู่ต่อการชะลอตัวของอุปสงค์ในตลาดโลกอาจหยุดยั้งการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน เว้นเสียแต่ว่าภาษีนำเข้าระหว่างสหรัฐกับจีนในปัจจุบันจะถูกยกเลิกเพื่อทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกสดใสขึ้น

ตลาดจะประเมินด้วยว่าความพยายามของโอเปค+ ในการปรับสมดุลตลาดน้ำมันโลกเพียงพอหรือไม่ โดยคำนวณถึงผลผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐที่สูงเป็นประวัติการณ์ รวมถึงความเสี่ยงที่จะเกิดการปะทุขึ้นอีกครั้งในความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่จะทำให้การเติบโตทั่วโลกลดต่ำกว่าเดิม

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน

มีความระมัดระวังในตลาดเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นสัปดาห์จากการคว่ำบาตรครั้งใหม่ของสหรัฐต่ออิหร่านและการประชุมระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์กับสี จิ้นผิง ตลาดหุ้นเอเชียมีความผันผวนในเช้าวันจันทร์ ขณะที่ฟิวเจอร์สของ S&P 500 ยังคงทรงตัวซึ่งบ่งชี้ว่ากระทิงในหุ้นกำลังเสียโมเมนตัมก่อนมีปัจจัยกระตุ้นสำคัญสำหรับความเชื่อมั่นในความเสี่ยง

ผลจากการประชุมระหว่างทรัมป์ - สี จิ้นผิงจะมีนัยสำคัญสำหรับนักลงทุนที่กำลังสรุปแนวโน้มในช่วงครึ่งหลังของปี 2019 อย่างแน่นอน ตลาดกำลังรอดูว่าการต่อรองเพื่อเอาชนะระหว่างสหรัฐกับจีนจะทำให้เกิดการเจรจาสงบศึกที่จะบรรเทาความตึงเครียดทางการค้าหรือไม่ หรือตลาดจะยังคงต้องเผชิญกับปัญหาความขัดแย้งที่ยืดเยื้อต่อไปในเดือนข้างหน้า

ขณะที่การประชุมทรัมป์ - สี จิ้นผิงเป็นขั้นตอนที่มีความหมายต่อการลดความตึงเครียดลง แต่ตลาดก็อาจต้องผิดหวังหากการประชุมที่มีเดิมพันสูงนี้จบลงด้วยความเปล่าประโยชน์ ทำให้ความขัดแย้งที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งมีอยู่เดิมยังคงมีอยู่ต่อไป ความเสี่ยงดังกล่าวชี้ให้เห็นว่านักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการตีความคาดการณ์ในผลลัพธ์ที่เป็นมิตรต่อตลาดจากการประชุมนี้

น้ำมันกระโดดขึ้นจากการคว่ำบาตรครั้งใหม่ของสหรัฐต่ออิหร่าน

ทั้งเบรนท์และ WTI ปีนขึ้นไปเหนือ 0.6 และ 0.8 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับณ เวลาที่เขียนอยู่นี้หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตเกี่ยวกับการคว่ำบาตร “ครั้งใหญ่” เพิ่มเติมต่ออิหร่านในวันจันทร์ นี่เป็นการจี้เข้าไปที่ความกังวลของตลาดที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันทั่วโลก ในขณะเดียวกัน หุ้นพลังงานในญี่ปุ่นและออสเตรเลียก็ไต่ระดับสูงขึ้น ซึ่งตรงกันข้ามกับการปรับลงในดัชนีหุ้นอ้างอิงที่เกี่ยวข้อง

การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันล่าสุดได้กำหนดกรอบการประชุมโอเปค+ ในสัปดาห์หน้า เนื่องจากผู้ผลิตน้ำมันต้องเผชิญกับงานปรับสมดุลตลาดน้ำมันที่ละเอียดอ่อน ในขณะที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นได้วิ่งเต้นทำงานให้กับโอเปค+ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบสูงขึ้น แต่แนวโน้มความต้องการยังคงดูย่ำแย่จากความไม่แน่นอนในความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งอาจเป็นภัยคุกคามต่อการบริโภคน้ำมันไปจนสิ้นสุดปี 2019 เว้นเสียแต่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สะเทือนเลื่อนลั่นในสมการอุปสงค์-อุปทานในสัปดาห์นี้ กลุ่มโอเปค+ อาจมีทางเลือกไม่มากนักนอกจากขยายเวลาลดกำลังการผลิตไปจนถึงครึ่งหลังของปี ซึ่งน่าจะช่วยพยุงราคาน้ำมันไว้ได้

ทองคำยังคงได้รับการสนับสนุนท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลก

ราคาทองคำอยู่เหนือระดับทางจิตวิทยาที่ $1,400 ซึ่งเน้นให้เห็นถึงโทนความระมัดระวังในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ในวันจันทร์ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นรวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับจีนทำให้มั่นใจได้ว่าสินทรัพย์ปลอดภัยยังคงอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยในขณะนี้

แม้เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการถึงการละลายหายไปอย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้นๆ ของความตึงเครียดที่นำโดยสหรัฐ แต่ประวัติศาสตร์เมื่อไม่นานมานี้แสดงให้เห็นว่าภูมิทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงมีสภาพคล่องสูงและสามารถพลิกกลับได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามการปรับลงของราคาทองคำที่เกิดขึ้นจากการเบาลงของความตึงเครียดในระยะสั้นนั้นจะได้รับการบรรเทาความรุนแรงจากท่าทีเอนเอียงไม่อยากผ่อนคลายของธนาคารกลางรายใหญ่ต่างๆ

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ดีดตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงต้นของวันจันทร์เพื่อกลับมาเทรดแถว 96.7 ในขณะที่เขียนอยู่นี้แม้จะมีการเทขาย USD เกิดขึ้นหลังจากรายงานการจ้างงานล่าสุดของสหรัฐออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 

แม้จะมีการลดลงมากกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์ในเดือนนี้ แต่ระดับปัจจุบันใน DXY จะช่วยดึงดูดผู้ซื้อดอลลาร์ เงินดอลลาร์ได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นต่อช่วงเวลาที่อ่อนแอหลายต่อหลายครั้งในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และนักลงทุนจะคอยติดตามอย่างใกล้ชิดว่าจะสามารถใช้การหยุดชะงักครั้งล่าสุดจากรายงานการจ้างงานนี้ในก้าวต่อไปได้หรือไม่

สิ่งที่น่ากังวลมากยิ่งกว่าอนาคตของ DXY คือตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจของสหรัฐหลายแห่งในไตรมาสที่สองได้ชี้ให้เห็นว่าโมเมนตัมการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐกำลังเย็นตัวลง ทำให้เกิดการคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐจะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า  ธนาคารกลางสหรัฐอาจเข้าแทรกแซงการกำหนดนโยบายการเงินเพื่อรักษาอัตราการเติบโตในเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งอยู่ในช่วงที่มีการขยายตัวยาวนานที่สุดเท่าที่เคยมีมาเมื่อถึงเดือนกรกฎาคม

แม้การเดิมพันในตลาดที่เพิ่มมากขึ้นว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้จะสร้างบรรยากาศที่ค่อนข้างเป็นลบต่อค่าเงินดอลลาร์ แต่ผู้ที่หวังว่า DXY จะยอมจำนนอาจต้องผิดหวังเนื่องจากแรงผลักกลับของสกุลเงินกลุ่ม G10 อื่นๆ ค่อนข้างเบาบาง ความหายนะทางเศรษฐกิจยังคงแผ่ปกคลุมแนวโน้มของยูโรอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินปอนด์ยังคงติดอยู่ในหมอก Brexit ซึ่งบ่งชี้ว่าความผันผวนของดัชนีดอลลาร์นี้ช่วยให้สกุลเงินอื่นๆ ทั่วโลกปรับขึ้นได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ความตึงเครียดทางการค้ายังคงถูกมองเป็นภัยคุกคามที่สำคัญที่สุดต่อทั้งการเติบโตของโลกและความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งหมายความว่าเงินดอลลาร์ เยน และทองคำจะยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนหากความตึงเครียดทางการค้าที่ยืดเยื้อส่งผลต่อแนวโน้มการเติบโตทั่วโลก

น้ำมันฟื้นตัวขึ้นเมื่อซาอุดิอาระเบียและรัสเซียดูเหมือนจะเห็นด้วยกับการขยายเวลาลดกำลังการผลิต

ฟิวเจอร์สน้ำมันเบรนท์ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องเหนือแนวรับที่ $60/บาร์เรลและปรับขึ้นมาเป็นเวลาสามวันติดต่อกันแล้ว หลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบียแสดงความมั่นใจว่ากลุ่มผู้ผลิตโอเปค+ จะยืดเวลาการลดกำลังการผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี 2019

จากการที่ราคาน้ำมันลงไปให้ท่าในตลาดหมีเมื่อไม่นานมานี้ ความต้องการทั่วโลกที่ชะลอตัวดูเหมือนจะเป็นภาพติดตาของนักลงทุนเนื่องจากผลเสียจากความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มสูงขึ้นยังคงรู้สึกได้ในเศรษฐกิจโลก ความยั่งยืนของการไต่ระดับขึ้นของน้ำมันอาจถูกกำหนดโดยภาพรวมขององค์กรอุตสาหกรรมหลักหลายแห่งที่มีกำหนดการในสัปดาห์นี้ โดยที่การคาดการณ์ว่าความต้องการทั่วโลกจะลดลงอีกจะถูกนำมาใช้ขู่เพื่อกระตุ้นให้เทรดเดอร์กัดเซาะกำไร 15% จากต้นปีจนถึงปัจจุบันต่อไป

แรงเสี่ยงลงทุนคืบคลานกลับมาแล้วในวันจันทร์

โหมดเสียงลงทุนดูเหมือนจะไหลกลับเข้ามาในตลาดในวันจันทร์ โดยตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ได้อย่างแข็งแกร่ง ทองคำร่วงลง 0.9% และตอนนี้เทรดต่ำกว่าระดับ $1,330 ในขณะที่เงินเยนของญี่ปุ่นลบการปรับขึ้นเมื่อวันศุกร์หายไปโดยไปเทรดอยู่เหนือ 108.4 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในขณะที่เขียนอยู่นี้

อย่างไรก็ตามค่าเงินในเอเชียส่วนใหญ่อ่อนค่าลงเนื่องจากการรีบาวด์กลับมาของดอลลาร์ และเป็นอีกครั้งที่การเคลื่อนไหวของราคาในวันนี้ในตลาด FX ของเอเชียเน้นถึงบรรยากาศโดยรอบสกุลเงินเอเชียซึ่งยังคงเป็นเรื่องราวที่ขับเคลื่อนด้วยเงินดอลลาร์ แม้ว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคจะเผชิญกับกระแสลมต้านที่เกิดจากความไม่แน่นอนที่เพิ่มสูงขึ้นโดยรอบแนวโน้มการเติบโตทั่วโลก

การจุดประกายให้หลีกเลี่ยงความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอีกจากความตึงเครียดทางการค้าที่ยกระดับขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างสหรัฐกับจีน อาจถอนคืนการปรับขึ้นของสกุลเงินในเอเชียเมื่อไม่นานมานี้ ในขณะที่บั่นทอนแรงเสี่ยงลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงอย่างหนักหน่วง

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน