การวิเคราะห์ตลาดรายวัน

สกุลเงินในเอเชียเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยความผันผวนเมื่อเทียบกับดัชนีดอลลาร์ (DXY) โดยที่ DXY ยังคงทำกำไรอยู่ที่ระดับ 97.5 หลังจากมียอดค้าปลีกและการผลิตของสหรัฐที่ดีเกินคาด ข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจที่มีรูปแบบผสมปนเปจากเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังคุกคามที่จะกัดเซาะโอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แม้ตลาดจะยึดตามความคาดหวังสำหรับมาตรการทางการเงินของสหรัฐที่จะผ่อนคลายลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ทุกสายตาจะจับจ้องไปที่การประกาศนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐในวันพุธ ที่ซึ่งคำใบ้ใดๆ ถึงความอดทนที่ลดลงจากผู้กำหนดนโยบายอาจบ่อนทำลายการปรับขึ้นล่าสุดของดอลลาร์ ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าสมการทางเศรษฐกิจส่วนใดที่จะดึงความสนใจของเฟดได้มากที่สุด โดยจะเป็นความมั่นใจว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่ทำลายสถิติยังพอมีช่องให้ขยายตัวได้อีก หรือจะเป็นความเสี่ยงด้านลบที่เพิ่มมากขึ้นจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับเศรษฐกิจโลก หากตลาดรู้สึกได้ถึงการเอนเอียงของเฟดไปทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อ “ประกันภัย” DXY อาจกลับไปสู่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วันที่ 97.0 โดยอาจมีแรงสนับสนุนที่แข็งแกร่งขึ้นที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ 96.59

ตลาดมองในแง่ร้ายมากเกินไปหรือเปล่า?

ในขณะที่กระแสลมที่รุนแรงยังคงหมุนรอบแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ควบคู่กับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทำให้นักลงทุนวิตกกังวล สินทรัพย์ปลอดภัยดูเหมือนจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ได้รับการโอบอุ้ม จนถึงตอนนี้ เงินเยนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีการเทรดอยู่แถว 108 ดอลลาร์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทองคำยังคงได้รับแรงหนุนเหนือระดับ $1320 ขณะที่ตราสารหนี้ของสหรัฐแบบ 10 ปีอยู่ใต้ 2.15% เกือบตลอดเวลา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2017

ท่ามกลางการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เห็นได้ชัดในตลาด นักลงทุนอาจตีราคาโอกาสที่จะเกิดเซอร์ไพรส์เชิงบวกจากการประชุมซัมมิท G20 ในปลายเดือนนี้ต่ำไป การประชุมระหว่างทรัมป์กับสี จิ้นผิงที่เป็นการเริ่มต้นการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนอีกครั้งนั้นไม่ได้เป็นสถานการณ์ปกติสำหรับนักลงทุนจำนวนมาก ณ เวลานี้ อย่างไรก็ตาม เซอร์ไพรส์ด้านบวกในด้านนี้อาจช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมากและขยับ USDJPY กลับไปสู่ระดับ 110 ขณะที่ทองคำอาจกลับไปเทรดใดระดับทางจิตวิทยาที่ $1300

ผู้เทรดน้ำมันถูกเตือนถึงแนวโน้มด้านอุปสงค์ที่เบาบางท่ามกลางความเสี่ยงด้านอุปทาน

น้ำมันเบรนท์และน้ำมันดิบประคองตัวอยู่เหนือ $62/บาร์เรลในขณะที่เขียนอยู่นี้เนื่องจากโอเปคยังคงกระตุ้นความเชื่อมั่นของตลาดว่าการลดกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องจะขยายไปตลอดปี 2019 ด้วยการตัดสินใจที่อาจเกิดขึ้นในต้นเดือนกรกฎาคม ความพยายามของกลุ่มผู้ผลิตโอเปค+ ในการปรับสมดุลตลาดอาจได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาลในช่วงครึ่งหลังของปี

กระทิงในน้ำมันยังอาจชี้ให้เห็นถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางว่าเป็นเหตุผลเพิ่มเติมที่จะทวงคืนผลกำไรขณที่ความเสี่ยงด้านอุปทานหวนกลับมาให้นักลงทุนได้เห็น แต่ตลาดก็ถูกเตือนถึงความเปราะบางของแนวโน้มด้านอุปสงค์จากการคาดการณ์ของ International Energy Agency ว่าอุปทานจะสูงกว่าอุปสงค์ในปี 2020 สิ่งนี้อาจทำให้ตลาดเข้าสู่ภาวะแรงอุปทานล้นเกินและจำกัดการปรับขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงปีนี้อย่างรวดเร็ว

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ดีดตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงต้นของวันจันทร์เพื่อกลับมาเทรดแถว 96.7 ในขณะที่เขียนอยู่นี้แม้จะมีการเทขาย USD เกิดขึ้นหลังจากรายงานการจ้างงานล่าสุดของสหรัฐออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 

แม้จะมีการลดลงมากกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์ในเดือนนี้ แต่ระดับปัจจุบันใน DXY จะช่วยดึงดูดผู้ซื้อดอลลาร์ เงินดอลลาร์ได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นต่อช่วงเวลาที่อ่อนแอหลายต่อหลายครั้งในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และนักลงทุนจะคอยติดตามอย่างใกล้ชิดว่าจะสามารถใช้การหยุดชะงักครั้งล่าสุดจากรายงานการจ้างงานนี้ในก้าวต่อไปได้หรือไม่

สิ่งที่น่ากังวลมากยิ่งกว่าอนาคตของ DXY คือตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจของสหรัฐหลายแห่งในไตรมาสที่สองได้ชี้ให้เห็นว่าโมเมนตัมการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐกำลังเย็นตัวลง ทำให้เกิดการคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐจะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า  ธนาคารกลางสหรัฐอาจเข้าแทรกแซงการกำหนดนโยบายการเงินเพื่อรักษาอัตราการเติบโตในเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งอยู่ในช่วงที่มีการขยายตัวยาวนานที่สุดเท่าที่เคยมีมาเมื่อถึงเดือนกรกฎาคม

แม้การเดิมพันในตลาดที่เพิ่มมากขึ้นว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้จะสร้างบรรยากาศที่ค่อนข้างเป็นลบต่อค่าเงินดอลลาร์ แต่ผู้ที่หวังว่า DXY จะยอมจำนนอาจต้องผิดหวังเนื่องจากแรงผลักกลับของสกุลเงินกลุ่ม G10 อื่นๆ ค่อนข้างเบาบาง ความหายนะทางเศรษฐกิจยังคงแผ่ปกคลุมแนวโน้มของยูโรอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินปอนด์ยังคงติดอยู่ในหมอก Brexit ซึ่งบ่งชี้ว่าความผันผวนของดัชนีดอลลาร์นี้ช่วยให้สกุลเงินอื่นๆ ทั่วโลกปรับขึ้นได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ความตึงเครียดทางการค้ายังคงถูกมองเป็นภัยคุกคามที่สำคัญที่สุดต่อทั้งการเติบโตของโลกและความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งหมายความว่าเงินดอลลาร์ เยน และทองคำจะยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนหากความตึงเครียดทางการค้าที่ยืดเยื้อส่งผลต่อแนวโน้มการเติบโตทั่วโลก

น้ำมันฟื้นตัวขึ้นเมื่อซาอุดิอาระเบียและรัสเซียดูเหมือนจะเห็นด้วยกับการขยายเวลาลดกำลังการผลิต

ฟิวเจอร์สน้ำมันเบรนท์ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องเหนือแนวรับที่ $60/บาร์เรลและปรับขึ้นมาเป็นเวลาสามวันติดต่อกันแล้ว หลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบียแสดงความมั่นใจว่ากลุ่มผู้ผลิตโอเปค+ จะยืดเวลาการลดกำลังการผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี 2019

จากการที่ราคาน้ำมันลงไปให้ท่าในตลาดหมีเมื่อไม่นานมานี้ ความต้องการทั่วโลกที่ชะลอตัวดูเหมือนจะเป็นภาพติดตาของนักลงทุนเนื่องจากผลเสียจากความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มสูงขึ้นยังคงรู้สึกได้ในเศรษฐกิจโลก ความยั่งยืนของการไต่ระดับขึ้นของน้ำมันอาจถูกกำหนดโดยภาพรวมขององค์กรอุตสาหกรรมหลักหลายแห่งที่มีกำหนดการในสัปดาห์นี้ โดยที่การคาดการณ์ว่าความต้องการทั่วโลกจะลดลงอีกจะถูกนำมาใช้ขู่เพื่อกระตุ้นให้เทรดเดอร์กัดเซาะกำไร 15% จากต้นปีจนถึงปัจจุบันต่อไป

แรงเสี่ยงลงทุนคืบคลานกลับมาแล้วในวันจันทร์

โหมดเสียงลงทุนดูเหมือนจะไหลกลับเข้ามาในตลาดในวันจันทร์ โดยตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ได้อย่างแข็งแกร่ง ทองคำร่วงลง 0.9% และตอนนี้เทรดต่ำกว่าระดับ $1,330 ในขณะที่เงินเยนของญี่ปุ่นลบการปรับขึ้นเมื่อวันศุกร์หายไปโดยไปเทรดอยู่เหนือ 108.4 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในขณะที่เขียนอยู่นี้

อย่างไรก็ตามค่าเงินในเอเชียส่วนใหญ่อ่อนค่าลงเนื่องจากการรีบาวด์กลับมาของดอลลาร์ และเป็นอีกครั้งที่การเคลื่อนไหวของราคาในวันนี้ในตลาด FX ของเอเชียเน้นถึงบรรยากาศโดยรอบสกุลเงินเอเชียซึ่งยังคงเป็นเรื่องราวที่ขับเคลื่อนด้วยเงินดอลลาร์ แม้ว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคจะเผชิญกับกระแสลมต้านที่เกิดจากความไม่แน่นอนที่เพิ่มสูงขึ้นโดยรอบแนวโน้มการเติบโตทั่วโลก

การจุดประกายให้หลีกเลี่ยงความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอีกจากความตึงเครียดทางการค้าที่ยกระดับขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างสหรัฐกับจีน อาจถอนคืนการปรับขึ้นของสกุลเงินในเอเชียเมื่อไม่นานมานี้ ในขณะที่บั่นทอนแรงเสี่ยงลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงอย่างหนักหน่วง

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน

สิงคโปร์จะได้รับการพิจารณาว่าเป็นเมืองหลวงของโลก อย่างน้อยก็ในช่วงต้นของสัปดาห์นี้ การประชุมครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างนายทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐ กับนายคิม จอง อึนผู้นำเกาหลีเหนือที่สิงคโปร์ถือว่าเป็นเหตการณ์ครั้งสำคัญสำหรับตลาดการเงินและเชื่อได้เลยว่านักลงทุนทั่วโลกจะจับตามองอย่างใกล้ชิด แม้ในช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้การประชุมจะมีท่าทีแบบมาๆ หยุดๆ แต่ในที่สุดผู้นำของทั้งสองประเทศก็ได้เดินทางมาถึงสิงคโปร์แล้ว และการประชุมในวันที่ 12 มิถุนายนก็จะเป็นที่จับตามองจากทั่วโลก

โดยปกติแล้วการประชุมกันระหว่างผู้นำโลกจะไม่ถือว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญในตลาดและส่วนมากก็จะได้รับปฏิกิริยาแบบนิ่งๆ แต่การประชุมในครั้งนี้ถูกมองต่างออกไป การประชุมครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ กับผู้นำประเทศที่มีความสามารถทางด้านนิวเคลียร์และเป็นประเทศปิดมาหลายทศวรรษทำให้เป็นเหตุการณ์ที่นักลงทุนไม่สามารถเมินได้ สมมติว่าการประชุมเป็นไปตามแผน ก็จะมีผู้ที่ได้และเสียประโยชน์จากสถานการณ์ของการประชุมในรูปแบบต่างๆ ที่จบลงในทางบวกหรือลบ ก่อนที่จะลงลึกในเรื่องนี้ สิ่งสำคัญที่เราควรดูก่อนคือภาพรวมของสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นในการประชุม

ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยอย่างโจ่งแจ้งในเรื่องที่เขาไม่ชอบอาวุธนิวเคลียร์และคาดได้เลยว่าจะกดดันอย่างหนักเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุด นั่นคือการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ จากการยอมทิ้งอาวุธนิวเคลียร์ ก็คาดว่ามาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือน่าจะค่อยๆ คลี่คลายลง และสหรัฐอเมริกาอาจเสนอการลงทุนและช่วยสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้

เรื่องนี้น่าจะยั่วยวนใจคิม จอง อึนพอสมควรเนื่องจากประเทศเกาหลีเหนือที่รุ่งเรืองในอนาคตจะยกย่องเขาในฐานะวีรบุรุษและเป็นผู้นำที่ปลดแอกบ้านเกิดของเขาจากการปลีกตัวจากประเทศอื่นทั่วโลก คิม จอง อึนอาจจะหาหลักประกันอื่นเพิ่มเติมเพื่อให้ตัวเขาไม่ถูกมองว่าเป็น “พวกประจบเอาใจ” จากการยอมทิ้งอาวุธนิวเคลียร์ แผนอ้างอิงของสหรัฐอเมริกาในการใช้ “แบบแผนลิเบีย (Libyan Model)” ในการปลดอาวุธได้ก่อให้เกิดความไม่พอใจต่อผู้นำเกาหลีเหนือที่บ้านเกิดของเขา

ตอนนี้เราจะมาดูผู้ที่ได้ประโยชน์หากการประชุมเป็นไปในทางบวก:

เกาหลีเหนือ: เรากำลังพูดถึงประเทศที่ปลีกตัวจากโลกมานานหลายทศวรรษ มีการรายงานว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในเกาหลีเหนือมีสภาพความเป็นอยู่ในแบบที่คาดไม่ถึง แต่ทุกอย่างอาจเปลี่ยนไปหากประเทศนี้เปิดกว้าง การปลดอาวุธนิวเคลียร์ในที่สุดน่าจะเป็นการเปิดทางให้กับการลงทุนระหว่างประเทศในเกาหลีเหนือและสามารถเข้าถึงตลาดได้

เงินวอนเกาหลี: เงินวอนเกาหลีคึกคักมาตั้งแต่หลายวันก่อนมีการประชุม เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญมากสำหรับเกาหลีใต้พอๆ กับเกาหลีเหนือ มีการคาดการณ์ว่าเงินวอนเกาหลีจะะวิ่งขึ้นจากผลลัพธ์การประชุมที่เป็นไปในทางบวกระหว่างทรัมป์กับคิม จอง อึน โดยเหตุผลส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าจะช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ที่ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้จะดียิ่งขึ้นอีก

โดนัลด์ ทรัมป์: สำหรับทุกช่วงเวลาที่คาดเดาไม่ได้ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ทรัมป์เข้ามาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ข่าวที่ว่าเขาจะมีการประชุมกับนายคิม จอง อึนน่าจะเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดแล้ว หากทรัมป์สามารถโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์ได้ เขาจะประสบความสำเร็จอย่างมากเพียงไม่กี่เดือนก่อนมีการเลือกตั้งกลางเทอม USD อาจได้ผลพลอยได้และขยับขึ้นจากแง่ดีที่ว่ากลยุทธ์ด้านนโยบายต่างประเทศของทรัมป์ช่วยสนับสนุนสันติภาพโลก

สกุลเงินที่ตรึงอยู่กับดอลลาร์: ความไม่แน่นอนในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐและกลยุทธ์ที่คาดเดาไม่ได้ของประธานาธิบดีทรัมป์ถูกมองว่าเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาหลักของการร่วงลงอย่างหนักในดอลลาร์จากระดับสูงสุดซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมปี 2017 ได้ไม่นาน หาก USD ได้รับแรงซื้อหลังจากจบการประชุม สกุลเงินที่ตรึงอยู่กับดอลลาร์ก็น่าจะได้อาศัยระลอกคลื่นนั้นด้วย เดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ริยาลกาตาร์และซาอุฯ ปอนด์เลบานอน เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสกุลเงินที่ตรึงอยู่กับดอลลาร์ที่จะได้รับประโยชน์จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น

ตลาดหุ้น: แรงเสี่ยงลงทุนที่เพิ่มขึ้นจะถูกมองว่าเป็นแรงหนุนให้กับหุ้นทั่วโลก ความไม่แน่นอนในช่วงปีที่ผ่านมาในความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์กับคิม จอง อึนถูกมองว่าเป็นหนึ่งในความเสี่ยงสำคัญสำหรับตลาดการเงิน การลดความไม่แน่นอนนี้ลงน่าจะช่วยหนุนให้นักลงทุนดำเนินการลงทุนในหุ้นระดับโลกต่อไป

สกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย: ตลาดเกิดใหม่โดยทั่วไปจะถูกจัดเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ลงทุนในความเสี่ยงสูง ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นในตลาดหุ้นที่จะยั่วยวนให้นักลงทุนเข้าหาสกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ ประเทศที่อยู่ใกล้กับเกาหลีเหนือในทางภูมิศาสตร์จะเป็นผู้แข่งขันในการวิ่งขึ้น โดยรวมถึงเงินวอนเกาหลี หยวนจีน บาทไทย รูเปียห์อินโดนีเซีย และริงกิตมาเลเซีย ดอลลาร์สิงคโปร์ก็อาจได้รับประโยชน์เช่นกัน

สกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ที่ให้ผลตอบแทนสูง: สกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงอย่างเงินแรนด์แอฟริกาใต้ เปโซเม็กซิโก และรูเบิลรัสเซียจะขึ้นอยู่กับแรงเสี่ยงลงทุนของนักลงทุนที่ต้องการจะเสี่ยงเป็นอย่างมาก โดยมีการคาดไว้ว่าสกุลเงินอย่างเช่นแรนด์จะเป็นไปตามทิศทางจากตลาดหุ้นทั่วโลก หากวิ่งขึ้นจากการประชุมที่เป็นบวก

ผู้ที่เสียประโยชน์จากการประชุมที่เป็นไปในทางบวก

ทองคำ: โลหะสีเหลืองต้องพยายามดิ้นรนอย่างหนักในไตรมาสที่สองของปี 2018 จากการฟื้นตัวอย่างคาดไม่ถึงใน USD แรงซื้อทองคำจะขึ้นอยู่กับความไม่แน่นอนในตลาดและโอกาสในการวิ่งขึ้นของตลาดหุ้นเป็นอย่างมาก บวกกับแรงดึงดูดที่ลดลงต่อสินทรัพย์ปลอดภัยจะถูกมองว่าเป็นโมเมนตัมเชิงลบสำหรับทองคำ 

เงินเยนญี่ปุ่น: เช่นเดียวกับทองคำ เงินเยนญี่ปุ่นขึ้นอยู่กับสถานะของสินทรัพย์ปลอดภัยเป็นอย่างมากสำหรับแรงซื้อ โอกาสในการวิ่งขึ้นของตลาดหุ้นต่อจากการประชุมที่เป็นไปในทางบวกและะแรงเสี่ยงลงทุนที่เพิ่มขึ้นจะถูกมองว่าเป็นผลลบสำหรับการถือครองเงินเยนของญี่ปุ่น

 หากการประชุมไม่ได้เป็นไปด้วยดี ก็จะมีผู้ที่เสียประโยชน์ในตลาดการเงินเช่นกัน:

เงินหยวนจีน: ผู้เสียประโยชน์อันดับหนึ่งหากผลลัพธ์ที่สิงคโปร์ออกมาเป็นลบอาจจะเป็นเงินหยวนของจีน คงเป็นเรื่องไม่น่าแปลกใจหากประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นจากจีนในการพยายามกระตุ้นให้จีนช่วยเหลือมากขึ้นเมื่อพูดถึงผู้มีอิทธิพลต่อเกาหลีเหนือในการทำลายอาวุธนิวเคลียร์ของตน จีนถูกมองว่าเป็นพันธมิตรหนึ่งเดียวที่เกาหลีเหนือมี

เงินวอนเกาหลี: ควันหลงจากความคืบหน้าสุดเหลือเชื่อเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาที่โดนัลด์ ทรัมป์และคิม จอง อึนจะนัดพบปะกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ก็ดีขึ้นมากจนถึงจุดที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ หากผลการประชุมออกมาเป็นลบ ก็เป็นไปได้ว่าเงินวอนเกาหลีจะถูกเทขายจากความไม่แน่นอนในตลาดที่ว่าเกาหลีเหนืออาจหันกลับไปทดสอบประสิทธิภาพนิวเคลียร์อีกครั้ง

ตลาดหุ้น / สกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ / เงินแรนด์แอฟริกาใต้: ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของการประชุมหากผลออกมาไม่พึงประสงค์ มีโอกาสที่นักลงทุนจะเข้าสู่โหมด “ลดแรงเสี่ยงลงทุน” หากสรุปพาดหัวข่าวมีอิทธิพลเหนือกว่าการประชุม ความไม่แน่นอนของตลาดจะถูกมองว่าเป็นลบสำหรับหุ้นทั่วโลกในกรณีที่แรงเสี่ยงลงทุนลดลงและส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อสกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ ช่วงของการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจะสนับสนุนให้นักลงทุนเกาะติดสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงอย่างเช่นเงินแรนด์แอฟริกาใต้

เมื่อพิจารณาถึงความซับซ้อนของการที่ทรัมป์และคิม จอง อึนมาพบปะกัน มีหลายสิ่งด้วยกันที่การประชุมอาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน แม้ว่าประธานาธิบดีประธานาธิบดีจะพูดด้วยตนเองว่าเขาไปพบผู้นำเกาหลีเหนือในฐานะ “ภารกิจเพื่อสันติสุข” และในแง่นั้น การประชุมควรจบลงโดยเป็นไปในทางบวก แต่นี่ก็ยังถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ความเสี่ยงสูงสำหรับตลาดการเงินและนักลงทุนทุกคนจะต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน

ดอลลาร์แสดงสัญญาณการอ่อนค่าลงชั่วขณะหลังจากที่แถลงการณ์ล่าสุดของ FOMC ชี้ให้นักลงทุนเห็นว่าธนาคารกลางสหรัฐจะไม่เลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้เร็วขึ้นกว่าที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้ หนึ่งในใจความสำคัญจากแถลงการณ์คือธนาคารกลางสหรัฐทราบดีว่าอัตราเงินเฟ้อใกล้ถึงเป้าหมายแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถบังคับให้ธนาคารกลางเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐได้

ดอลลาร์สหรัฐจะมุ่งไปในทิศทางใดนั้นเป็นคำถามที่ตอบได้ยาก โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นแล้วว่านักลงทุนช็อกแค่ไหนจากการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดในโมเมนตัมของดอลลาร์ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา

สิ่งที่จะทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอีกคือหากธนาคารกลางในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่าง Bank of England (BoE) และ European Central Bank (ECB) ยังคงลังเลที่จะกระชับนโยบายการเงิน เราได้เห็นเงินปอนด์อังกฤษปรับแบบจิกหัวลงจากอีกครั้งที่นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการ BoE กลับลำจากท่าทีก่อนหน้านี้ที่ดูมั่นใจว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหราชอาณาจักร และนี่ก็เป็นข้อเตือนใจว่าความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารกลางสหรัฐกับธนาคารกลางในประเทศที่พัฒนาแล้วอื่นๆ อาจช่วยผลักดันให้เทรดเดอร์หันเข้าหาดอลลาร์สหรัฐได้

ความเสี่ยงหนึ่งเดียวที่นักลงทุนต้องคำนึงถึงในระยะเวลาอันใกล้นี้คือสหรัฐอเมริกาจะเริ่มการเจรจาการค้ากับจีนแล้ว มีความกังวลว่ารูปการณ์ที่ก่อให้เกิดความตึงเครียดทางการค้านั้นอาจเกิดขึ้นและสัญญาณใดๆ ที่ชี้ว่าจะมีการแตกหักในการหารือระหว่างสองประเทศที่เป็นเจ้าแห่งเศรษฐกิจของโลกก็เป็นความเสี่ยงที่ตลาดการเงินจะมีปฏิกิริยาตอบโต้ การเจรจาการค้ามีศักยภาพในการส่งผลเสียต่อหุ้นทั่วโลกในรูปแบบของแรงเสี่ยงลงทุนที่ลดลง และอาจส่งผลให้โมเมนตัมการซื้อสกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ลดลงอีกด้วย

ทองคำป้องกัน $1300 ไว้ได้

ความสามารถของทองคำในการป้องกันแนวรับทางจิตวิทยาที่ $1300 ไว้ได้จะช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนพิจารณาเพิ่มทองคำเข้าในพอร์ตการลงทุนของพวกเขาในระดับปัจจุบัน การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนมาถึงทางตันอย่างที่หลายคนได้คาดการณ์ไว้ ซึ่งในช่วงแรกมักกระตุ้นให้นักลงทุนหันไปหาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เงินเยนญี่ปุ่นก็น่าจะได้ประโยชน์ด้วยหากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนนำไปสู่ช่วงเวลาของความไม่แน่นอนครั้งใหม่ในตลาด

ลีราตุรกียังคงอยู่ในความเสี่ยงที่จะอ่อนค่าลงอีกเป็นประวัติการณ์

การมองโลกในแง่ดีว่าการที่ธนาคารกลางของตุรกีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% จะช่วยป้องกันไม่ให้ลีราปรับลงอีกครั้งนั้นกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะร่วงแบบเอาหัวลง โดยเป็นผลมาจากความกังวลที่ว่าอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นนั้นสายเกินไปแล้วที่จะป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจโตเร็วเกินไป

การเผยแพร่ของ Standard & Poor เมื่อวานนี้ที่ว่าอันดับความน่าเชื่อถือของตุรกีขยับไปอยู่ในระดับขยะแล้ว ความกลัวเกี่ยวกับการขาดดุลในบัญชีที่เพิ่มมากขึ้น อัตราเงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางกว่าเท่าตัว และความเสี่ยงทางการเมืองที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกจะทำให้เทรดเดอร์หมดกำลังใจที่จะซื้อลีราตุรกีที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นี้ต่อไปเรื่อยๆ  

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน

ตลาดเอเชียเปิดมาในวันพฤหัสบดีโดยพบข่าวว่าพรรค Republicans ได้เห็นชอบร่างกฎหมายภาษีที่รอกันมายาวนาน ขณะนี้ ประธานาธิบดี Trump ใกล้ที่จะปฏิรูปกฎหมายภาษีแล้วเสร็จ ขาดเพียงลงนาม น่าสนใจตรงที่ไม่มีความน่าตื่นเต้นเกี่ยวกับการประกาศของขวัญวันคริสต์มาสของ Trump เพราะตลาดได้รับรู้ข่าวดีในส่วนนี้แล้ว

อันที่จริงนั้น ตลาดตราสารหนี้มีปฏิกิริยามากกว่า ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี เทรดเหนือ 2.5% เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมีนาคม 2017 ส่งผลให้เส้นผลตอบแทนชันขึ้นหลังคงที่เกือบทั้งปี 2017 สเปรดของตั๋วเงินคลัง 2 ปีและ 10 ปีไต่ขึ้นมากกว่า 12 Basis Point (bp) โดยแตะ 63 Basis Point (bp) หลังอยู่ในระดับต่ำสุดมาเป็นทศวรรษเมื่อสัปดาห์ก่อน การที่ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวดีดตัวขึ้นคาดว่าจะเป็นผลบวกต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากบ่งชี้ว่า Fed ควรมุ่งมั่นที่จะบรรลุนโยบายที่ตึงเครียดขึ้นในปีหน้า อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์กลับไม่มีปฏิกิริยาเนื่องจากมีเรื่องราวอีกฝั่ง พันธบัตรสหรัฐฯ ที่เข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้นเนื่องจากการปรับลดภาษีที่ไม่ได้รับการสนับสนุนอาจจะทำให้พันธบัตรสหรัฐฯ น่าสนใจน้อยลงในระยะยาว และทำให้ธนาคารกลางส่วนใหญ่พยายามเกาะติดข่าวจาก Fed นอกจากนี้ ผลตอบแทนในตลาดยุโรปและตลาดอื่นๆ ยังปรับตัวสูงขึ้นในปี 2018 ดังนั้น ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยจึงน้อยลง 

นอกจากนี้ การขาดดุลที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากของสหรัฐฯ ยังทำให้อันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ มีความเสี่ยง หากการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ จากบริษัทความเชื่อถือ เช่น Standard & Poor’s, Moody’s หรือ Fitch ลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลลง ผลตอบแทนจะกลับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อดอลลาร์ไม่จำเป็นต้องเป็นบวก แต่อาจมีปฏิกิริยาในทางตรงข้าม 

ปฏิกิริยาของเงินเยนต่อการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของ Bank of Japan ก็คงที่เช่นกัน ธนาคารกลางคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ -0.1% และคงเป้าผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีไว้ที่ประมาณ 0% ตามที่คาด เมื่อพิจารณาว่าอัตราเงินเฟ้อที่อ่อนแอน่าจะยังคงส่งผลต่อนโยบายการเงินในภาพรวม ฉันก็ไม่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่สำคัญในนโยบายปีหน้า ดังนั้น เงินเยนจะยังคงต้องอาศัยคำใบ้จากความกังวลด้านความเสี่ยง/ความชื่นชอบความเสี่ยงในตลาดหุ้นเพื่อคาดการณ์อนาคต

ผู้เทรดเงินยูโรกำลังรอผลการเลือกตั้งจากกาตาลุญญาในวันนี้ โพลบ่งชี้ว่าจะมีการแข่งขันอย่างเข้มข้นระหว่างพรรคฝ่ายซ้าย Catalan Republican ที่สนับสนุนการแยกตัวเป็นอิสระกับพรรค Ciudadanos ซึ่งต้องการรวมตัวกับสเปน เมื่อพิจารณาว่าการเลือกตั้งอาจไม่แน่นอนและพรรคอาจก่อตั้งรัฐบาลผสม ความเสี่ยงที่จะเกิดความตึงเครียดกับกรุงมาดริดอีกครั้งจึงยังจำกัด

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน