- ตลาดมีจังหวะที่จะทะลุขึ้นเพราะออกจากสถานการณ์คลุมเครือ
- ปอนด์บวกเมื่อเทียบกับค่าเงินของกลุ่ม G10 และค่าเงินเอเชียส่วนใหญ่ โดยที่ GBPUSD ยังคงลดลง 1.6 เปอร์เซ็นต์หลังจาก Johnson รับตำแหน่งนายกฯ
- นักลงทุนทั่วโลกยังคงมีมุมมองในเชิงบวกจนกว่าจะถึงการเจรจาการค้าของจีน-สหรัฐฯ ส่วนข้อตกลง Brexit ก็เริ่มชัดเจนขึ้น
สินทรัพย์เสี่ยงจึงมีโอกาสอันหาได้ยากที่จะหลุดพ้นจากสถานการณ์คลุมเครือซึ่งปกคลุมตลาดก่อนหน้านี้ แนวโน้มของตลาดได้รับการกระตุ้นจากข่าวดีที่ว่าจีนและสหรัฐฯ ตกลงอย่างเป็นทางการว่าจะกลับมาเจรจาทางการค้าในเดือนตุลาคม ขณะความตั้งใจของนายกฯ Boris Johnson ของอังกฤษที่จะไม่ทำข้อตกลง Brexit ถูกยับยั้งอย่างหนักหลังสภาคัดค้านการออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 ตุลาคมโดยไม่มีข้อตกลง รวมถึงยังปฏิเสธการเลือกตั้งที่ฉุกละหุก
สถานการณ์ที่ดีขึ้นเช่นนี้ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวในทิศทางบวก หุ้นเอเชียเขียวยกแผง ขณะที่ค่าเงินเอเชียส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เงินวอนเกาหลีใต้วิ่งนำโดยบวก 0.8 เปอร์เซ็นต์เทียบกับดอลลาร์ในเวลาที่เขียน
ส่วนสินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวปานกลางโดยทองลดลงประมาณ 0.3 เปอร์เซ็นต์ ค่าเงินเยนอ่อนลงประมาณ 0.3 เปอร์เซ็นต์ก่อนจะดิ่งลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปีบวกเหนือแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1.50 เปอร์เซ็นต์
สภาอังกฤษตัดสินใจเกี่ยวกับจุดยืนเรื่อง Brexit ของนายกฯ Johnson ว่าจะ “สู้หรือยอมแพ้”
เงินปอนด์ยืนเหนือ 1.22 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเคลื่อนไหวบวกเทียบกับค่าเงินเอเชียและกลุ่มประเทศ G10 ส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดไม่เชื่อว่าอังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลงอาจส่งผลต่อตลาดเป็นหลักในตอนนี้ เมื่อพิจารณาว่าค่าเงินปอนด์ยังคงอยู่ในระดับที่ลดลง 1.6 เปอร์เซ็นต์ หลัง Boris Johnson เข้ารับตำแหน่งนายกฯ ในเดือนกรกฎาคม
Brexit ในอนาคตอาจทำให้เกิดการเลือกตั้งซึ่งอาจทำให้มีมุมมองว่า Brexit จะไม่มีข้อตกลงอีกครั้งในกรณีที่นายกฯ Johnson ได้คะแนนเสียงส่วนใหญ่ แม้ทางเลือกส่วนใหญ่ที่ให้ชะลอการออกจากสหภาพยุโรปจะส่งผลดีต่อตลาดมากกว่า แต่ก็เป็นทางแก้ระยะสั้น ปล่อยให้ปัญหา Brexit ยังค้างคาขณะที่กดดันค่าเงินปอนด์ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับ Brexit ที่นานยิ่งขึ้นอาจทำให้ค่าเงินปอนด์ยังคงอ่อนแอเพราะความเสี่ยงทางการเมืองของอังกฤษ
นักลงทุนมากประสบการณ์ทั่วโลกยังคงระวังเรื่องความตึงเครียดจากการค้าจีน-สหรัฐฯ
แม้สินทรัพย์เสี่ยงจะบวก แต่นักลงทุนทั่วโลกยังคงไม่วางใจในการบวกจากข่าวว่าจีนและสหรัฐฯ จะเจรจาทางการค้าในเดือนหน้า อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่มีประสบการณ์สูงมองว่าสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ในอนาคตยังน่าสับสนในกรอบเวลารายปี
ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นถูกบรรเทาด้วยข่าวเชิงบวกล่าสุดว่ากำแพงระหว่างจีน-สหรัฐฯ อาจหมดไปและมีผลเต็มที่ต่อเศรษฐกิจโลก หากต้องการให้มีการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ตลาดจะต้องส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าสหรัฐฯ และจีนใกล้ได้ข้อสรุปสำคัญที่มีผลต่อไปในการเจรจา ภาษีศุลกากรต้องถูกยกเลิกเพื่อบรรเทาแรงกดดันต่อเศรษฐกิจโลก เมื่อถึงตอนนั้น การบวกของสินทรัพย์เสี่ยงคาดว่าจะจำกัดขณะที่สินทรัพย์ปลอดภัยน่าจะคงที่เนื่องจากส่วนใหญ่เพิ่งปรับตัวขึ้น
ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน